แม้ว่าราคาน้ำมันจะฟื้นตัวเล็กน้อย แต่ราคายังคงลดลงร้อยละ 10 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่แล้ว
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าพุ่งเกิน 70 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล โดยเพิ่มขึ้น 1.4% จากสัปดาห์ก่อนหน้า สาเหตุหลักมาจากการหยุดชะงักของโครงสร้างพื้นฐานด้านน้ำมันในอ่าวเม็กซิโก และการคาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยในสหรัฐฯ จะปรับตัวลดลง ส่งผลให้การผลิตน้ำมันเกือบ 20% ในอ่าวเม็กซิโกยังคงหยุดชะงักเนื่องจากพายุเฮอริเคนฟรานซีน
นอกจากนี้ นักลงทุนยังคาดหวังว่าอัตราดอกเบี้ยจะลดลง 50 เปอร์เซ็นต์ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและเพิ่มความต้องการน้ำมัน อย่างไรก็ตาม ความกังวลยังคงมีอยู่เกี่ยวกับความต้องการที่ชะลอตัวลง หลังจากข้อมูลของจีนแสดงให้เห็นถึงช่วงการถดถอยของภาคอุตสาหกรรมที่ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 2021 โดยมีการลงทุนต่ำกว่าที่คาดไว้ และมีความสงสัยว่าจีนจะบรรลุเป้าหมายการเติบโตของประเทศหรือไม่
ในลิเบีย การส่งออกน้ำมันลดลงอย่างมีนัยสำคัญเนื่องจากการเจรจาเรื่องการบริหารจัดการของธนาคารกลางที่นำโดยสหประชาชาติยังคงไม่มีความคืบหน้า EIA ให้ข้อมูลอันมีค่าเกี่ยวกับอุปทานน้ำมันทั่วโลก โดยมีข้อมูลบางส่วนที่อาจหลุดลอยจากตลาด ตัวอย่างเช่น การผลิตน้ำมันดิบทั่วโลกแตะระดับสูงสุดในเดือนพฤศจิกายน 2018 ที่ 84.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในเดือนพฤษภาคมของปีนี้ การผลิตน้ำมันทั่วโลกลดลงเหลือ 81 ล้านบาร์เรลต่อวัน
ข้อมูลดังกล่าวบ่งชี้ถึงการชะลอตัวของอุปทาน และข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันของ Baker Hughes แสดงให้เห็นว่ากิจกรรมการขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐฯ กำลังลดลงเรื่อยๆ นี่อาจเป็นข่าวดี แต่ปัญหาหลักคือความต้องการน้ำมันที่ลดลง
การเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวทั่วโลกส่งผลให้ความต้องการน้ำมันลดลง ดังจะเห็นได้จากรายงานการบริโภคของโอเปก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จีน ซึ่งเป็นผู้บริโภคน้ำมันดิบรายใหญ่ที่สุดในโลก ได้รับผลกระทบจากวิกฤตในภาคอสังหาริมทรัพย์ และการเปลี่ยนผ่านไปสู่แหล่งพลังงานที่สะอาดกว่า เช่น ก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) และยานยนต์ไฟฟ้า ขณะเดียวกัน สหรัฐฯ พบว่าการส่งออกน้ำมันเพิ่มขึ้นเนื่องจากกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น ทำให้ราคาน้ำมันทั่วโลกตกต่ำลง และชดเชยการลดการผลิตของโอเปก
วิธีง่ายๆ ในการคาดการณ์ความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันคือการวิเคราะห์แผนงานอุตสาหกรรมและงบดุลของผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ แม้ว่าส่วนนี้จะยาก แต่ปัจจุบันทุกคนสามารถเข้าถึงการวิเคราะห์บริษัทในอุตสาหกรรมได้แล้วด้วย InvestingPro
InvestingPro เป็นแหล่งข้อมูลที่ยอดเยี่ยมสำหรับนักลงทุน เนื่องจากจะวิเคราะห์บริษัทต่างๆ และให้คำแนะนำที่มีประโยชน์เพื่อหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดที่อาจก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายสูง ในที่สุดคุณก็สามารถตัดสินใจอย่างรอบรู้เพื่อช่วยให้คุณได้รับประโยชน์สูงสุดจากการลงทุนของคุณ
มาดูสถานการณ์ปัจจุบันของ Chevron Corporation (NYSE:) ซึ่งเป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจสำรวจ พัฒนา และผลิตน้ำมันดิบกัน ตามข้อมูลของ InvestingPro ราคาขั้นต่ำอยู่ที่ 114 ซึ่งอาจหมายถึงมูลค่าของหุ้นลดลง และส่งผลให้ราคาน้ำมันลดลงในอนาคตอันใกล้
หากใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิค เราสามารถสันนิษฐานได้ว่าราคาน้ำมันดิบจะไปถึง 72 เหรียญสหรัฐ ซึ่งเป็นโซนต้านทาน ก่อนที่จะเกิดการเคลื่อนตัวลงอีกครั้ง
เราคาดว่าราคาน้ำมันอาจอ่อนตัวในไตรมาสหน้าเนื่องจากอุปสงค์ที่ไม่แน่นอนที่ระดับ 60 เหรียญสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงนโยบายของโอเปกอาจช่วยหลีกเลี่ยงสถานการณ์ดังกล่าวได้ด้วยการลดการผลิตลงอย่างมาก เราจะคอยติดตามความคืบหน้าของข่าวสารในประเด็นนี้
เราหวังว่าจะได้พบคุณในบทความต่อไป! และโปรดจำไว้ว่าหากต้องการซื้อขายอย่างประสบความสำเร็จ ให้พึ่งพา InvestingPro เสมอ ซึ่งเป็นเครื่องมือที่จำเป็นที่จะช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดร้ายแรงระหว่างการซื้อขายของคุณ
คำแนะนำการอ่านบทความนี้ : บางบทความในเว็บไซต์ ใช้ระบบแปลภาษาอัตโนมัติ คำศัพท์เฉพาะบางคำอาจจะทำให้ไม่เข้าใจ สามารถเปลี่ยนภาษาเว็บไซต์เป็นภาษาอังกฤษ หรือปรับเปลี่ยนภาษาในการใช้งานเว็บไซต์ได้ตามที่ถนัด บทความของเรารองรับการใช้งานได้หลากหลายภาษา หากใช้ระบบแปลภาษาที่เว็บไซต์ยังไม่เข้าใจ สามารถศึกษาเพิ่มเติมโดยคลิกลิ้งค์ที่มาของบทความนี้ตามลิ้งค์ที่อยู่ด้านล่างนี้
ที่มาบทความนี้