ยูโรโซน (Eurozone) ประกอบไปด้วย 19 ประเทศที่อยู่ในสหภาพยุโรป (EU) ได้แก่ ออสเตรีย เบลเยียม ไซปรัส เอสโตเนีย ฟินแลนด์ ฝรั่งเศส เยอรมนี กรีซ ไอร์แลนด์ อิตาลี ลัตเวีย ลิทัวเนีย ลักเซมเบิร์ก มอลตา เนเธอร์แลนด์ โปรตุเกส สโลวาเกีย สโลวีเนีย และ สเปน ปัจจุบันมีประชากรประมาณ 340 ล้านคนอาศัยอยู่ในเขตยูโรโซน

ปัจจุบัน ยูเครน ได้ลงนามเอกสารขอสมัครเป็นสมาชิกยูโรโซน ซึ่งต้องรอดูต่อไปว่าจะรับยูเครนเข้าเป็นประเทศสมาชิกที่ 20 หรือไม่
ประเด็นที่สำคัญ
-
ยูโรโซนหมายถึงภูมิภาคทางเศรษฐกิจและภูมิศาสตร์ที่ประกอบด้วยประเทศในสหภาพยุโรป (EU) ทั้งหมดที่ร่วมกันใช้เงินยูโรเป็นสกุลเงินหลัก
-
ในปีพ.ศ. 2535 สนธิสัญญามาสทริชต์ได้ก่อตั้งสหภาพยุโรปและปูทางไปสู่การก่อตั้งสหภาพเศรษฐกิจและการเงินร่วมกันซึ่งประกอบด้วยระบบธนาคารกลาง สกุลเงินร่วมกัน และ พื้นที่เศรษฐกิจร่วมกัน ซึ่งเรียกว่า ยูโรโซน
-
ยูโรโซนปัจจุบันประกอบไปด้วย 19 ประเทศในสหภาพยุโรป ได้แก่ ออสเตรีย เบลเยียม ไซปรัส เอสโตเนีย ฟินแลนด์ ฝรั่งเศส เยอรมนี กรีซ ไอร์แลนด์ อิตาลี ลัตเวีย ลิทัวเนีย ลักเซมเบิร์ก มอลตา เนเธอร์แลนด์ โปรตุเกส สโลวาเกีย สโลวีเนีย และ สเปน .
-
ไม่ใช่ทุกประเทศในสหภาพยุโรปที่เข้าร่วมในยูโรโซน บางประเทศเลือกที่จะใช้สกุลเงินของตนเองและรักษาเสถียรภาพทางการเงินโดยธนาคารกลางของตนเอง
-
ประเทศในสหภาพยุโรปที่ตัดสินใจเข้าร่วมในยูโรโซนจะต้องปฎิบัติตามข้อกำหนดที่ตั้งขึ้นร่วมกัน
ประวัติของยูโรโซน
ในปี 1992 ประเทศต่าง ๆ ที่ประกอบเป็นประชาคมยุโรป (EC) ได้ลงนามในสนธิสัญญามาสทริชต์ดังนั้นจึงเป็นการสร้างสหภาพยุโรป การก่อตั้งสหภาพยุโรปมีผลกระทบสำคัญสองสามด้าน โดยเป็นการส่งเสริมการประสานงานและความร่วมมือด้านนโยบายที่มากขึ้น แต่มีผลกระทบเฉพาะต่อความเป็นพลเมือง นโยบายความมั่นคง และ การป้องกันประเทศ และ นโยบายเศรษฐกิจ
เกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจ สนธิสัญญามาสทริชต์มีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างสหภาพเศรษฐกิจและการเงินร่วมกัน โดยมีระบบธนาคารกลางคือธนาคารกลางยุโรป (ECB) และ สกุลเงินที่ใช้ร่วมกันคือเงินยูโร (Euro)
ในการทำเช่นนี้ ในสนธิสัญญาเริ่มแรกได้มีการเรียกร้องให้มีการเคลื่อนย้ายเงินทุนอย่างเสรีระหว่างประเทศสมาชิก ซึ่งหลังจากนั้นก็ก็นำไปสู่ความร่วมมือที่เพิ่มขึ้นระหว่างธนาคารกลางระดับชาติ และ ความสอดคล้องที่เพิ่มขึ้นของนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศสมาชิก ขั้นตอนสุดท้ายคือการนำเงินยูโรมาใช้พร้อมกับการดำเนินการตามนโยบายการเงิน
ปัจจุบันยูโรโซนเป็นหนึ่งในภูมิภาคทางเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก และ สกุลเงินยูโร ถือเป็นหนึ่งในสกุลเงินที่มีสภาพคล่องมากที่สุด
วิวัฒนาการก่อนมาเป็น ยูโรโซน (Eurozone)

1945-59 สันติภาพในยุโรปและจุดเริ่มต้นของความร่วมมือ
ความร่วมมือหลังสงครามในยุโรปนำไปสู่การสร้างประชาคมถ่านหินและเหล็กกล้าแห่งยุโรป การลงนามสนธิสัญญากรุงโรม และการกำเนิดรัฐสภายุโรป
1960-69 The ‘Swinging Sixties’ ช่วงเวลาของการเติบโตทางเศรษฐกิจ
การพัฒนาของสหภาพยุโรปตลอดช่วงทศวรรษ 1960 ด้วยการบูรณาการทางเศรษฐกิจเพิ่มเติมในยุโรปและจุดเริ่มต้นของความร่วมมือระหว่างประเทศ
1970-79 ชุมชนที่กำลังเติบโต สมาชิกใหม่กลุ่มแรกที่เข้าร่วม : เดนมาร์ก ไอร์แลนด์ และ สหราชอาณาจักร
การพัฒนาของสหภาพยุโรปในยุค 70 ด้วยการเพิ่มสมาชิกใหม่ครั้งแรก การเลือกตั้งในยุโรป และนโยบายระดับภูมิภาค
1980-89 ใบหน้าที่เปลี่ยนไปของยุโรป – การล่มสลายของลัทธิคอมมิวนิสต์
การพัฒนาของสหภาพยุโรปในปี 1990 ด้วยการขยายตัวที่มากขึ้นและการเปิดตัวของตลาดเดียว การเดินทางแบบไร้พรมแดน และ เงินยูโร
2000-09 การขยายเพิ่มเติม
การพัฒนาของสหภาพยุโรปจากปี 2000 ถึง 2009 โดยมีประเทศใหม่ 12 ประเทศเข้าร่วม เงินยูโรกลายเป็นเงินที่ถูกกฎหมาย และการลงนามในสนธิสัญญาลิสบอน
2010-19 ทศวรรษที่ท้าทาย
การพัฒนาของสหภาพยุโรปจากปี 2010 ถึง 2019 เพื่อตอบสนองต่อวิกฤตการณ์ทางการเงิน โครเอเชียเข้าร่วมสหภาพยุโรป และ สหราชอาณาจักรขอโหวตให้ออก (Brexit)
2020-วันนี้ โควิด-19 และ หนทางสู่การฟื้นฟู
การพัฒนาของสหภาพยุโรปตั้งแต่ปี 2020 เพื่อตอบสนองต่อการระบาดใหญ่ของ COVID-19 ในขณะที่ยุโรปอยู่บนเส้นทางสู่การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ