spot_imgspot_img
spot_img
หน้าแรกTHAI STOCKฟิวเจอร์สดาวโจนส์ร่วง ส่งสัญญาณว่าวอลล์สตรีทกำลังจะหยุดพัก | RYT9

ฟิวเจอร์สดาวโจนส์ร่วง ส่งสัญญาณว่าวอลล์สตรีทกำลังจะหยุดพัก | RYT9


ดัชนีดาวโจนส์วันนี้ฟิวเจอร์สร่วง ส่งสัญญาณพักตัวตลาดหลักทรัพย์Wall Street หลังจากเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในเดือนนี้ก.พ.

เมื่อเวลา 19:26 น. ตามเวลาไทย ดัชนี Dow Jones Futures ร่วงลง 66 จุดหรือ 0.17% ปิดที่ 38,977 จุด

ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งในเดือนกุมภาพันธ์ ดัชนีดาวโจนส์ดีดตัวขึ้น 2.2% และเพิ่มขึ้นติดต่อกัน 4 เดือนเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 3 ปี หรือตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2564 ขณะที่ดัชนี S&P 500 และ Nasdaq เพิ่มขึ้น 5.2% และ 6.1% ตามลำดับ

ดัชนีดาวโจนส์พุ่งทะลุระดับ 39,000 ในการซื้อขายระหว่างวันเมื่อวานนี้ ขณะเดียวกันนักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อ หลังจากที่สหรัฐฯ เปิดเผยดัชนีราคารายจ่ายการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ที่เป็นไปในทิศทางเดียวกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ และชะลอตัวลงตั้งแต่เดือนธันวาคม

นักลงทุนจับตาเหตุการณ์สำคัญในสหรัฐฯ ที่จะเกิดขึ้นสัปดาห์หน้าที่จะกำหนดชะตากรรมของการเมืองอเมริกันและโลก รวมทั้งระบุทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

สหรัฐอเมริกาจะจัดการเลือกตั้ง “ซูเปอร์วันอังคาร” (ซูเปอร์วันอังคาร) ในวันที่ 5 มีนาคม ขณะที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ มีกำหนดจะแถลงนโยบายประจำปีของสหภาพต่อสภาคองเกรสในวันที่ 7 มีนาคม

นอกจากนี้ ประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ จะแถลงแถลงการณ์รายครึ่งปีเกี่ยวกับนโยบายการเงินและสถานะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ต่อสภาคองเกรสในวันที่ 6-7 มีนาคม

*”ซุปเปอร์วันอังคาร”

สหรัฐฯ จะจัดการเลือกตั้งขั้นต้นใน 15 รัฐและหนึ่งดินแดน คือ อเมริกันซามัว ในวันที่ 5 มีนาคม ซึ่งจะตัดสินว่าใครจะเป็นตัวแทนของพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันในการต่อสู้ครั้งนี้ ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในเดือนพฤศจิกายนปีนี้

ผลการเลือกตั้งขั้นต้นในอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน และอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ต่างชนะการเลือกตั้งขั้นต้นจากพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกัน

หากท้ายที่สุดแล้ว ประธานาธิบดีไบเดนและนายทรัมป์ต่างก็ประสบความสำเร็จในการได้รับเลือกให้เป็นผู้เสนอชื่อชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกันในวันที่ 5 พฤศจิกายน 2567 จะถือเป็นการรีแมตช์ของผู้แข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในปี 2563 และจะถือเป็นนาย . การแก้แค้นของทรัมป์ ซึ่งแม้จะล้มเหลวและพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งครั้งก่อน แต่เชื่อว่าเขายังคงมีฐานผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่จงรักภักดีจำนวนมากพร้อมที่จะสนับสนุนการกลับมาสู่ทำเนียบขาว

หากประธานาธิบดีไบเดนชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปีนี้ และครองทำเนียบขาวต่อไปอีก 4 ปี จะทำให้เขามีอายุครบ 86 ปีเมื่อสิ้นสุดวาระที่ 2 มากกว่าอดีตประธานาธิบดีโรนัลด์ โรนัลโด้ เรแกนมีอายุ 77 ปีเมื่อเขาสิ้นสุดวาระที่สองในการดำรงตำแหน่งในปี 2532

*แถลงการณ์สถานะของสหภาพ

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ มีกำหนดจะกล่าวปราศรัยประจำปีต่อสภาคองเกรสในเดือนมีนาคม นี่จะเป็นคำปราศรัยครั้งสุดท้ายของเขาต่อชาวอเมริกันทั่วประเทศ ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐจะเกิดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน

ประธานาธิบดีไบเดนจะกล่าวสุนทรพจน์ในวันพฤหัสบดีที่ 7 มีนาคม เวลา 21.00 น. ตามเวลาสหรัฐอเมริกา หรือเช้าวันศุกร์ที่ 8 มีนาคม เวลา 09.00 น. ตามเวลาไทย

การประกาศนโยบายประจำปีจะมีการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ไปยังชาวอเมริกันทั่วประเทศ ขณะที่สำนักข่าว CNN จะถ่ายทอดสดไปทั่วโลก จะมีการจับตาดูคำแถลงของประธานาธิบดีไบเดนเกี่ยวกับทิศทางนโยบายของสหรัฐฯ ท่ามกลางสงครามระหว่างอิสราเอลและฮามาส ในขณะเดียวกัน รัสเซียยังคงใช้ปฏิบัติการพิเศษทางทหารต่อยูเครนต่อไป รวมถึงความขัดแย้งในทะเลจีนใต้และคาบสมุทรเกาหลี

ประธานาธิบดีไบเดนคาดว่าจะใช้โอกาสนี้กล่าวสุนทรพจน์เพื่อรวบรวมคะแนนเสียงของชาวอเมริกัน ท่ามกลางความกังวลว่าเขาจะสูญเสียความนิยมในหมู่ชาวอเมริกันที่ต่อต้านการโจมตีของอิสราเอลต่อชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา

นอกจากนี้ การเลือกตั้งครั้งนี้ยังเป็นการพนันครั้งใหญ่สำหรับประธานาธิบดีไบเดน คาดว่าคู่ต่อสู้ของเขาคือนายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรครีพับลิกัน และจะถือเป็นการรีแมตช์ของผู้เข้าแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในปี 2563

*”พาวเวลล์” แถลงต่อรัฐสภา

เจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐจะแถลงแถลงการณ์รายครึ่งปีเกี่ยวกับนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ต่อสภาคองเกรสในสัปดาห์หน้า

พาวเวลล์มีกำหนดยื่นแถลงการณ์ต่อคณะกรรมการบริการทางการเงินของสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 6 มีนาคม ก่อนที่จะกล่าวปราศรัยต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารของวุฒิสภาในวันที่ 7 มีนาคม

ตลาดจับตาดูคำกล่าวของนายพาวเวลล์ โดยจะเกิดขึ้นก่อนการประชุมนโยบายการเงินของ Fed ในวันที่ 19-20 มีนาคม เพื่อค้นหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของ Fed

นักลงทุนคาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในปีนี้ในเดือนมิถุนายน เดิมทีคาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงต้นเดือนมีนาคม แต่เลื่อนไปเป็นเดือนพฤษภาคม โดยก่อนหน้านี้คาดว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจะเกิดขึ้นในเดือนมิถุนายน รวมถึงคาดการณ์ว่าเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% เพียง 3 เท่าในปีนี้ จากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยมากกว่า 4 เท่า


     

คำแนะนำการอ่านบทความนี้ : บางบทความในเว็บไซต์ ใช้ระบบแปลภาษาอัตโนมัติ คำศัพท์เฉพาะบางคำอาจจะทำให้ไม่เข้าใจ สามารถเปลี่ยนภาษาเว็บไซต์เป็นภาษาอังกฤษ หรือปรับเปลี่ยนภาษาในการใช้งานเว็บไซต์ได้ตามที่ถนัด บทความของเรารองรับการใช้งานได้หลากหลายภาษา หากใช้ระบบแปลภาษาที่เว็บไซต์ยังไม่เข้าใจ สามารถศึกษาเพิ่มเติมโดยคลิกลิ้งค์ที่มาของบทความนี้ตามลิ้งค์ที่อยู่ด้านล่างนี้


Source link

spot_imgspot_img
RELATED ARTICLES
- Advertisment -
Technical Summary Widget Powered by Investing.com

ANALYSIS TODAY

Translate »