spot_imgspot_img
spot_img
หน้าแรกTHAI STOCKดาวโจนส์ร้อนแรงจนหยุดขึ้นไม่ได้ ล่าสุดพุ่งทะยานกว่า 500 จุด | RYT9

ดาวโจนส์ร้อนแรงจนหยุดขึ้นไม่ได้ ล่าสุดพุ่งทะยานกว่า 500 จุด | RYT9


ดัชนีดาวโจนส์ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดพุ่งขึ้นมากกว่า 500 จุด ตอบรับการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ได้ยุติวงจรการขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้ว

นักลงทุนส่งกำลังซื้อกระจายไปทั่วตลาด ส่งผลให้หุ้นทุกกลุ่มปรับตัวสูงขึ้น นำโดยกลุ่มอสังหาริมทรัพย์

เมื่อเวลา 00:58 น. ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 33,778.03 จุด บวก 503.45 จุด หรือ 1.51%

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีลดลงต่ำกว่า 4.7% ในวันนี้

การอ่อนค่าของเงินดอลลาร์จะช่วยเพิ่มผลกำไรของบริษัทจดทะเบียนที่มีรายได้จากต่างประเทศ ในส่วนของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ซึ่งเป็นพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ใช้อ้างอิงในการกำหนดราคาตราสารหนี้ทั่วโลก ซึ่งรวมถึงอัตราดอกเบี้ยจำนองของสหรัฐอเมริกา จะทำให้ผู้บริโภคมีเงินใช้จ่ายมากขึ้น และช่วยลดต้นทุนการชำระหนี้ให้กับบริษัทต่างๆ ทำให้บริษัทเหล่านี้สามารถเพิ่มการลงทุนได้ และเพิ่มการจ่ายเงินปันผลให้กับนักลงทุน

คณะกรรมการนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) มีมติเป็นเอกฉันท์ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นไว้ที่ 5.25-5.50% ในการประชุมเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 22 ปี

ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยตามที่ตลาดคาด นับเป็นครั้งที่ 2 ติดต่อกันที่อัตราดอกเบี้ยคงที่ หลังจากที่เฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ย 11 ครั้งนับตั้งแต่เริ่มวงจรขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมีนาคม 2565 ส่งผลให้เฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ย 11 ครั้ง อัตราดอกเบี้ย 5.25%

นักลงทุนให้น้ำหนักคาดการณ์ว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยทรงตัวในการประชุมเดือนธันวาคม ซึ่งเป็นการประชุมครั้งสุดท้ายของปีนี้ หลังจากที่เฟดประกาศจะคงอัตราดอกเบี้ยตามที่คาดไว้ในการประชุมเมื่อวานนี้

นอกจากนี้ ในแถลงการณ์หลังการประชุมเฟดเมื่อวานนี้ เจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟดส่งสัญญาณว่าเฟดอาจยุติวงจรนโยบายการเงินที่เข้มงวดที่สุดในรอบ 40 ปี หลังจากที่คณะกรรมการของเฟดตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยให้คงที่ พบกัน 2 ครั้งติดต่อกัน

“คำถามที่เราถามคือ “เราควรขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกหรือไม่ ฉันคิดว่าการชะลอการเพิ่มอัตราจะทำให้เราเข้าใจได้ดีขึ้นว่าเราต้องทำอะไรมากกว่านี้” พาวเวลล์กล่าว

เครื่องมือ FedWatch ล่าสุดของ CME Group ระบุว่านักลงทุนให้น้ำหนัก 85.4% แก่ Fed เพื่อรักษาอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 12-13 ธันวาคม

นอกจากนี้ นักลงทุนคาดว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 5.25-5.50% ในการประชุมเดือนมกราคม มีนาคม และพฤษภาคม 2567 ก่อนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเหลือ 0.25% ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมเดือนมิถุนายน

นักลงทุนจับตาดูการเปิดเผยผลประกอบการของ Apple อิงค์หลังปิดตลาดวันนี้ รวมถึงตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพรุ่งนี้ด้วย

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเพียง 188,000 ตำแหน่งในเดือนตุลาคม หลังจากเพิ่มขึ้น 336,000 ตำแหน่งในเดือนกันยายน ถือเป็นการเพิ่มขึ้นที่ใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม และคาดว่าอัตราการว่างงานจะยังคงทรงตัวที่ 3.8% ในเดือนตุลาคม


     

คำแนะนำการอ่านบทความนี้ : บางบทความในเว็บไซต์ ใช้ระบบแปลภาษาอัตโนมัติ คำศัพท์เฉพาะบางคำอาจจะทำให้ไม่เข้าใจ สามารถเปลี่ยนภาษาเว็บไซต์เป็นภาษาอังกฤษ หรือปรับเปลี่ยนภาษาในการใช้งานเว็บไซต์ได้ตามที่ถนัด บทความของเรารองรับการใช้งานได้หลากหลายภาษา หากใช้ระบบแปลภาษาที่เว็บไซต์ยังไม่เข้าใจ สามารถศึกษาเพิ่มเติมโดยคลิกลิ้งค์ที่มาของบทความนี้ตามลิ้งค์ที่อยู่ด้านล่างนี้


Source link

spot_imgspot_img
RELATED ARTICLES
- Advertisment -
Technical Summary Widget Powered by Investing.com

ANALYSIS TODAY

Translate »