ดาวโจนส์ยังคงเพิ่มขึ้น ล่าสุดทะยานขึ้นกว่า 200 จุด ทะลุระดับ 35,000 จุด เพิ่มขึ้นเป็นวันที่ 8 ติดต่อกัน ตอบรับผลประกอบการที่แข็งแกร่ง รวมถึงการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ใกล้จะสิ้นสุดวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ณ เวลา 21:25 น. ตามเวลาไทย ค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 35,227.73 จุด บวก 275.80 จุด หรือ 0.79%
นักลงทุนกำลังจับตาดูผลประกอบการของ Netflix และ Tesla ซึ่งจะเปิดเผยหลังจากตลาดปิดวันนี้
จากข้อมูลของ FactSet บริษัท 78% ของ S&P 500 ที่เปิดเผยผลประกอบการในไตรมาสที่สองนั้นออกมาดีเกินความคาดหมาย
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์พุ่งขึ้นมากกว่า 300 จุดเมื่อวานนี้ นับเป็นการปรับตัวขึ้นเป็นเวลา 7 วัน ซึ่งเป็นการปรับขึ้นที่ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2564 เพื่อตอบสนองความคาดหวังที่ว่าสหรัฐฯ จะไม่เผชิญกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย
Goldman Sachs ปรับลดการคาดการณ์ภาวะเศรษฐกิจถดถอยในอีก 12 เดือนข้างหน้าเป็น 20% จาก 25% ก่อนหน้านี้
“สาเหตุหลักของการลดอันดับเครดิตนี้เกิดจากข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดที่ออกมาดีเกินคาด สิ่งนี้ทำให้เรามั่นใจว่าอัตราเงินเฟ้อสามารถชะลอตัวลงในระดับที่ยอมรับได้ โดยไม่จำเป็นต้องเกิดภาวะถดถอย” Jan Hatzius หัวหน้านักวิเคราะห์ของ Goldman Sachs กล่าว
นาย Hatzius คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มที่จะเติบโต 2.3% ในไตรมาสที่สองเนื่องจากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่เติบโตขึ้น และอัตราการว่างงานลดลงเหลือ 3.6% ในเดือนมิถุนายน
Federal Reserve Bank of Atlanta เปิดตัวแบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุด ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ขยายตัว 2.4% ในไตรมาสที่ 2 หลังจากขยายตัว 2.0% ในไตรมาสที่ 1
นอกจากนี้ นาย Hatzius คาดว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในสัปดาห์หน้า นี่จะเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งสุดท้ายในรอบปัจจุบัน
นักลงทุนให้น้ำหนักเกือบ 100% กับการคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในสัปดาห์หน้า
เครื่องมือ FedWatch ของ CME Group ล่าสุดบ่งชี้ว่านักลงทุน 99.8% มีน้ำหนักในการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด 0.25% สู่ช่วง 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 25-26 กรกฎาคม และเพียง 0.2% ในเฟด จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 5.00-5.25%
นอกจากนี้ ตลาดยังมองว่าเฟดใกล้จะสิ้นสุดวงจรการขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้ว หลังการเปิดเผยยอดค้าปลีกดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ต่ำกว่าคาด โดยนักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในเดือนนี้เป็นครั้งสุดท้ายของปีนี้ ก่อนปรับลดดอกเบี้ยในปีหน้า
นักลงทุนให้น้ำหนัก 40.4% ว่าเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 19-20 มีนาคม 2567 เพิ่มขึ้นจาก 34.7% ในเดือนที่แล้ว
คำแนะนำการอ่านบทความนี้ : บางบทความในเว็บไซต์ ใช้ระบบแปลภาษาอัตโนมัติ คำศัพท์เฉพาะบางคำอาจจะทำให้ไม่เข้าใจ สามารถเปลี่ยนภาษาเว็บไซต์เป็นภาษาอังกฤษ หรือปรับเปลี่ยนภาษาในการใช้งานเว็บไซต์ได้ตามที่ถนัด บทความของเรารองรับการใช้งานได้หลากหลายภาษา หากใช้ระบบแปลภาษาที่เว็บไซต์ยังไม่เข้าใจ สามารถศึกษาเพิ่มเติมโดยคลิกลิ้งค์ที่มาของบทความนี้ตามลิ้งค์ที่อยู่ด้านล่างนี้
Source link