ดัชนีดาวโจนส์พุ่งกว่า 100 จุดทะลุระดับ 34,000 ตอบรับตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรต่ำกว่าคาด นี่จะเป็นปัจจัยในการชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed)
เมื่อเวลา 20:36 น. ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 34,005.04 จุด บวก 165.96 จุด หรือ 0.49%
นักลงทุนให้น้ำหนักคาดการณ์ว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยทรงตัวในการประชุมเดือนธ.ค. หลังเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานต่ำกว่าคาดในวันนี้
นอกจากนี้นักลงทุนคาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนพฤษภาคม 2567 เร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ว่าจะลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายน 2567
เครื่องมือ FedWatch ล่าสุดของ CME Group ระบุว่านักลงทุนให้น้ำหนัก 90.2% แก่ Fed เพื่อรักษาอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 12-13 ธันวาคม
ในขณะเดียวกัน นักลงทุนคาดว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 5.25-5.50% ในการประชุมเดือนมกราคมและมีนาคม 2567 ก่อนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% เหลือ 5.00-5.25 % ในการประชุมเดือนพฤษภาคม หลังจากที่ก่อนหน้านี้คาดว่าเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายน
กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเพียง 150,000 ตำแหน่งในเดือนตุลาคม ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 3 ปีหรือนับตั้งแต่มกราคม 2564 และต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 188,000 ตำแหน่ง
อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นเป็น 3.9% ในขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะทรงตัวที่ 3.8%
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ลดลงต่ำกว่า 4.6% หลังจากเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานในวันนี้
การอ่อนค่าของเงินดอลลาร์จะช่วยเพิ่มผลกำไรของบริษัทจดทะเบียนที่มีรายได้จากต่างประเทศ ในส่วนของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ซึ่งเป็นพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ใช้อ้างอิงในการกำหนดราคาตราสารหนี้ทั่วโลก ซึ่งรวมถึงอัตราดอกเบี้ยจำนองของสหรัฐอเมริกา จะทำให้ผู้บริโภคมีเงินใช้จ่ายมากขึ้น และช่วยลดต้นทุนการชำระหนี้ให้กับบริษัทต่างๆ ทำให้บริษัทเหล่านี้สามารถเพิ่มการลงทุนได้ และเพิ่มการจ่ายเงินปันผลให้กับนักลงทุน
คำแนะนำการอ่านบทความนี้ : บางบทความในเว็บไซต์ ใช้ระบบแปลภาษาอัตโนมัติ คำศัพท์เฉพาะบางคำอาจจะทำให้ไม่เข้าใจ สามารถเปลี่ยนภาษาเว็บไซต์เป็นภาษาอังกฤษ หรือปรับเปลี่ยนภาษาในการใช้งานเว็บไซต์ได้ตามที่ถนัด บทความของเรารองรับการใช้งานได้หลากหลายภาษา หากใช้ระบบแปลภาษาที่เว็บไซต์ยังไม่เข้าใจ สามารถศึกษาเพิ่มเติมโดยคลิกลิ้งค์ที่มาของบทความนี้ตามลิ้งค์ที่อยู่ด้านล่างนี้
Source link