นายประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) (SPALI) กล่าวว่าภาพรวมของบริษัทในปี 2567 ถือเป็นปีแห่งการขยายศักยภาพในมิติต่างๆ ขับเคลื่อนการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ให้มากขึ้น ทั้งในและต่างประเทศ เป็นปีที่บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการมากที่สุด มูลค่าโครงการสูงสุด มีเป้าหมายยอดขายสูงสุด มูลค่าโครงการโอนกรรมสิทธิ์สูงสุด และสิ่งใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้น รวมถึงการออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่และการออกแบบบ้านใหม่ การพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมที่อยู่อาศัยที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
รวมถึงลงทุนในทำเลใหม่ๆ ที่จะขยายตลาดให้กว้างขวางมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ศุภาลัยขยายศักยภาพในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยครอบคลุม 29 จังหวัด เปิดตัวรวมทั้งสิ้น 441 โครงการนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทจนถึงปัจจุบัน
นอกจากนี้เรายังลงทุนในออสเตรเลียต่อไป จับมือบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ Stockland Communities Partnership HoldCo Pty Ltd จัดตั้งบริษัทร่วมทุนในชื่อ “SSRCP HoldCo Pty Ltd” อัดฉีดงบเพิ่มอีก 12.6 พันล้านบาท พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยเพิ่มเติม 12 โครงการ มูลค่าโครงการ 137 พันล้านบาท 4 รัฐ 5 เมืองสำคัญ ที่ทำให้บริษัทนำเสนอ มีการพัฒนาโครงการไปแล้วทั้งหมด 24 โครงการ มูลค่าโครงการ 1.87 แสนล้านบาท คิดเป็นเงินทุนรวมของศุภาลัย 22.3 พันล้านบาท โครงการที่เพิ่งซื้อใหม่จะสามารถรับรู้รายได้ได้ในปีนี้ เนื่องจากเป็นโครงการที่ได้เริ่มพัฒนาแล้ว
นายประทีป กล่าวว่า ภาพรวมเศรษฐกิจอสังหาริมทรัพย์ปี 2567 มีแนวโน้มเติบโตไปในทิศทางที่ดีขึ้น จากอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง อัตราเงินเฟ้อเริ่มทรงตัว การท่องเที่ยวและการส่งออกเริ่มดีขึ้น การลงทุนเริ่มเพิ่มมากขึ้น แต่ปีนี้จะเป็นอีกปีที่ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์จะแข่งขันกันเปิดตัวโครงการใหม่เพิ่มขึ้นหรือไม่?
แม้ว่าตลาดที่อยู่อาศัยโดยรวมในปี 2567 จะยังคงเผชิญกับปัจจัยท้าทายต่างๆ ส่วนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เรามั่นใจว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ปีนี้จะเดินหน้าต่อไป เป็นผลมาจากการปรับตัวของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ ความต้องการสินค้าที่อยู่อาศัยในโครงการแนวราบยังคงขยายตัวได้ดี โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าระดับกลางถึงบน ขณะที่สินค้าในกลุ่มคอนโดมิเนียม เริ่มมีสัญญาณฟื้นตัวในทำเลที่มีศักยภาพ นายตรีเตชา ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ SPALI กล่าวว่า ทิศทางการดำเนินธุรกิจในปี 2567 บริษัทยังคงมุ่งมั่นพัฒนาธุรกิจและก้าวไปข้างหน้าอย่างแข็งแกร่ง ตั้งเป้าหมายใหม่ที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม พร้อมประกาศทำ All-Time High ทั้งเปิดตัวโครงการและยอดขาย ตั้งเป้ายอดขาย 36,000 ล้านบาท เป้าหมายรายได้รวม 36,000 ล้านบาท และเตรียมงบซื้อที่ดิน 8,000 ล้านบาท
พร้อมทำลายสถิติเปิดตัวโปรเจ็กต์ใหม่สูงสุด มูลค่าสูงสุดเท่าที่เคยมีมา เนื่องจากบริษัทดำเนินโครงการมาแล้วถึง 42 โครงการ มูลค่ารวม 5 หมื่นล้านบาท ครอบคลุมทุกผลิตภัณฑ์ ทุกระดับราคารองรับทุกความต้องการ ด้วยการเปิดตัวโครงการแนวนอนมากถึง 38 โครงการ มูลค่ารวม 43.5 พันล้านบาท และคอนโดมิเนียม 4 โครงการ มูลค่ารวม 6.5 พันล้านบาท พร้อมเปิดตลาดอสังหาริมทรัพย์ใน 3 จังหวัดใหม่ บนทำเลศักยภาพ ได้แก่ ลำปาง ราชบุรี และ ลพบุรี พัฒนาโครงการครอบคลุมทุกทำเลใน 29 จังหวัด เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคทุกภูมิภาค
จุดเด่นของโครงการใหม่ในปีนี้ บริษัทเตรียมเข้าสู่ตลาดอสังหาริมทรัพย์อย่างเต็มกำลัง เปิดตัวโครงการแนวราบสูงสุดทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และภูมิภาค ในไตรมาสที่ 1 ปี 2567 เปิดตัวมากถึง 14 โครงการ มูลค่ารวม 14.9 พันล้านบาท พร้อมเดินหน้าเพิ่มส่วนแบ่งตลาดบ้านเดี่ยวสุดหรู ตลาดบ้าน. เจาะกลุ่มลูกค้าระดับสูง พัฒนาโครงการบ้านจัดสรรราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนยอดขาย 56% จากปีที่แล้ว และกำลังเปิดตัวแบรนด์ใหม่ นอกจากนี้เรายังมุ่งพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้าทุกกลุ่มเป้าหมาย สร้างสรรค์บ้านซีรีส์ใหม่ที่มาพร้อมกับนวัตกรรมเพื่อการอยู่อาศัยที่ยั่งยืนมากขึ้น ขยายสู่ทำเลที่มีศักยภาพสูงตอบโจทย์การอยู่อาศัย เช่น อรุณอมรินทร์ กรุงเทพกรีฑา อุทยาน-อัครพุทธมณฑล และกลับมาสู่ตลาดอีกครั้ง
ส่วนโครงการคอนโดมิเนียม อัดแน่นไปด้วยฟังก์ชันและดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ ในราคาที่คุ้มค่า นอกจากนี้ เรายังร่วมกับพันธมิตรจัดแคมเปญพิเศษสำหรับลูกค้าศุภาลัย รวมถึงแคมเปญให้ลูกบ้านศุภาลัย ผ่อน 0% ในปีแรกและ ขับเคลื่อนการดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและการจัดการพลังงานอย่างยั่งยืน ก้าวไปสู่เป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมระยะกลาง ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 40% ภายในปี 2563 จาก BAU (ธุรกิจตามปกติ)
“เราคาดว่าปี 2024 จะเป็นอีกปีหนึ่งของบริษัท มีการเติบโตของยอดขาย รายได้ และกำไร โดยการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยให้ครอบคลุมถึง 29 จังหวัด และมีสินค้าพร้อมเข้าอยู่เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า ความพร้อมด้านต้นทุนทางการเงิน สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และนวัตกรรม การตลาดและการขาย การบริการที่ครบวงจรและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม” นายตรีเตชา กล่าว
สำหรับผลการดำเนินงานในปีที่ผ่านมา 66 ถือเป็นปีที่ท้าทายในการดำเนินธุรกิจภายใต้สภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงมีความไม่แน่นอน แต่บริษัทก็สามารถก้าวไปข้างหน้าได้อย่างแข็งแกร่ง ด้วยยอดขายเพิ่มเติมในประเทศไทยรวม 28.6 พันล้านบาท โดยเปิดตัว 26 โครงการใหม่ ทั้งแนวราบและคอนโดมิเนียม มูลค่ารวม 29.6 พันล้านบาท แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 23 โครงการ (กรุงเทพฯ และปริมณฑล 8 โครงการภูมิภาค 15 โครงการ) โครงการ) และโครงการคอนโดมิเนียม 3
คำแนะนำการอ่านบทความนี้ : บางบทความในเว็บไซต์ ใช้ระบบแปลภาษาอัตโนมัติ คำศัพท์เฉพาะบางคำอาจจะทำให้ไม่เข้าใจ สามารถเปลี่ยนภาษาเว็บไซต์เป็นภาษาอังกฤษ หรือปรับเปลี่ยนภาษาในการใช้งานเว็บไซต์ได้ตามที่ถนัด บทความของเรารองรับการใช้งานได้หลากหลายภาษา หากใช้ระบบแปลภาษาที่เว็บไซต์ยังไม่เข้าใจ สามารถศึกษาเพิ่มเติมโดยคลิกลิ้งค์ที่มาของบทความนี้ตามลิ้งค์ที่อยู่ด้านล่างนี้
Source link