![](https://promo.icmarkets.com/Banners/2021/Thai/THAI_970x250_GlobalMarkets_FSA.jpg)
![](https://promo.icmarkets.com/Banners/2021/Thai/THAI_970x250_GlobalMarkets_FSA.jpg)
![MMM 23 เปิดซื้อขายบนกระดาน LiVEx วันแรก ราคาสูงกว่าการจอง 34% พร้อมขยายธุรกิจ ดันผลประกอบการแบบก้าวกระโดด ตั้งเป้ารายได้ปี 2567 แตะ 500 ลบ. มุ่งยกระดับบุกตลาด mai](https://www.ryt9.com/img/files/20231218/iqf3763ccfadd22be4b0d6710194613433.jpg)
![MMM 23 เปิดซื้อขายบนกระดาน LiVEx วันแรก ราคาสูงกว่าการจอง 34% พร้อมขยายธุรกิจ ดันผลประกอบการแบบก้าวกระโดด ตั้งเป้ารายได้ปี 2567 แตะ 500 ลบ. มุ่งยกระดับบุกตลาด mai](https://www.ryt9.com/img/files/20231218/iqf3763ccfadd22be4b0d6710194613433.jpg)
บริษัท เอ็มเอ็มเอ็ม แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) (MMM23) เข้าสู่สนามซื้อขายบนกระดาน LiVEx วันแรก ด้วยราคาสูงกว่าราคาจอง 34% จากราคา IPO ที่ 8.50 บาท พร้อมระดมทุน 25.5 ล้านบาท ขยายธุรกิจ โดยเน้นการสรรหาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในทำเลศักยภาพ พร้อมขยายเครือข่ายตัวแทนอสังหาริมทรัพย์อิสระให้ครอบคลุมทั้งพื้นที่ รองรับงานใหม่ๆ ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น สร้างการก้าวกระโดดในการทำงาน บิ๊กบอส “ณิชา โรจน์วัฒนา” ตอกย้ำทีมงานคุณภาพระดับมืออาชีพ วิเคราะห์และประเมินราคาอสังหาริมทรัพย์ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด ตั้งเป้ารายได้ปี 2567 เป็น 500 ล้านบาท จาก 250 ล้านบาทในปี 2566 เตรียมแผนยกระดับเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai
บริษัท เอ็มเอ็มเอ็ม แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MMM23 เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ Live Exchange (LiVEx) วันนี้ 18 ธันวาคม 2566 เป็นครั้งแรก เปิดซื้อขายวันแรกที่ 11.4 บาท เพิ่มขึ้น 2.9 บาท หรือ 34% จาก IPO ราคา 8.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 2.85 ล้านบาท
นางสาวนิชา โรจน์วัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็มเอ็มเอ็ม แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MMM23 เปิดเผยว่า ราคาหุ้นปรับตัวสูงขึ้น สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อพื้นฐานการดำเนินธุรกิจของบริษัท พร้อมนำเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้มาเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ เช่น วางเงินมัดจำสัญญาบริหารโครงการ ซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่อพัฒนาเพื่อขาย และการจ้างบุคลากรเพิ่มเติม เป็นต้น ซึ่งจะส่งผลให้มีแนวโน้มเพิ่มยอดขายและกำไรในอนาคต
ส่วนแผนธุรกิจในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า บริษัทตั้งเป้าสรรหาโครงการอสังหาริมทรัพย์เพิ่มเติมให้ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ เน้นทำเลใกล้กับแหล่งชุมชน นิคมอุตสาหกรรมหรือสถาบันการศึกษาและขยายธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจปัจจุบัน โดยเฉพาะหน่วยธุรกิจที่มีอัตรากำไรขั้นต้นที่ดี ได้แก่ การบริหารโครงการ และการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์พร้อมทั้งขยายทีมการตลาดและเครือข่ายนายหน้าอิสระอย่างต่อเนื่อง รวมถึงเครือข่ายนายหน้าสำหรับชาวต่างชาติที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในประเทศไทย เพื่อสร้างรายได้และผลกำไรให้เติบโตในอนาคต
“บริษัทเชื่อว่าผลการดำเนินงานของบริษัทจะเติบโตอย่างก้าวกระโดด ท่ามกลางความผันผวนของอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากกลุ่มเครือข่ายที่แข็งแกร่งและมีคุณภาพ สามารถวิเคราะห์และประเมินราคาอสังหาริมทรัพย์ได้ ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ตรงจุด เข้าถึงตัวคุณ กลุ่มเป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ปิดการขายได้รวดเร็วจนได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น ตั้งเป้าหมายรายได้รวมปี 2566 ไว้ที่ 250 ล้านบาท ในปี 2567 มีรายได้ 500 ล้านบาท และในปี 2568 มีรายได้ 1,000 ล้านบาท และเป็น เตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ภายในปี 2568 อีกด้วย”
นางสาววีรยา ศรีวัฒนา หัวหน้าฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญ เปิดเผยว่า หุ้น MMM23 เป็นหุ้นลำดับที่ 4 ที่มีการซื้อขายในตลาด Live Exchange (LiVEx) บน วันแรกของการซื้อขาย ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดี สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ดังจะเห็นได้จากผลการดำเนินงานที่ผ่านมาที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และเงินที่ได้รับจากการระดมทุนครั้งนี้มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อนำไปใช้ในการขยายธุรกิจ เพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ให้เติบโตแบบทวีคูณในอนาคต ทำให้มั่นใจได้ว่า MMM23 จะเป็นหุ้นที่มีการเติบโตสูงอย่างแน่นอน
นางสาวเดือนพรรณ ลีละวิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไพโอเนียร์ แอดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า จากพื้นฐานที่แข็งแกร่ง จะเห็นได้จากศักยภาพในการดำเนินธุรกิจที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เป็นผู้นำในการให้คำปรึกษาด้านการขายและการตลาดแก่เจ้าของโครงการอสังหาริมทรัพย์ คณะผู้บริหารและพนักงานมีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ และเป็นตัวแทนบริหารการขายอสังหาริมทรัพย์มายาวนานและได้รับการยอมรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี ส่งผลให้ธุรกิจเติบโต ซึ่งสะท้อนจากผลการดำเนินงานปี 2564-2565 โดยมีรายได้จากการขายและการบริการ 105.18 ล้านบาท และ 168.08 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 11.57 ล้านบาท และ 35.09 ล้านบาท ตามลำดับ ส่วนงวด 9 เดือน ปี 2566 บริษัทมีรายได้จากการขายและการบริการ 160.57 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 29.54 ล้านบาท
คำแนะนำการอ่านบทความนี้ : บางบทความในเว็บไซต์ ใช้ระบบแปลภาษาอัตโนมัติ คำศัพท์เฉพาะบางคำอาจจะทำให้ไม่เข้าใจ สามารถเปลี่ยนภาษาเว็บไซต์เป็นภาษาอังกฤษ หรือปรับเปลี่ยนภาษาในการใช้งานเว็บไซต์ได้ตามที่ถนัด บทความของเรารองรับการใช้งานได้หลากหลายภาษา หากใช้ระบบแปลภาษาที่เว็บไซต์ยังไม่เข้าใจ สามารถศึกษาเพิ่มเติมโดยคลิกลิ้งค์ที่มาของบทความนี้ตามลิ้งค์ที่อยู่ด้านล่างนี้
Source link