(รอยเตอร์) – ธนาคารกลางยุโรปควรตัดสินใจนโยบายการเงินในอนาคตโดยพิจารณาจากความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นมากกว่าข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุด Philip Lane หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ ECB กล่าวกับ Financial Times ในการสัมภาษณ์ที่เผยแพร่เมื่อวันจันทร์
“เมื่อ … กระบวนการสลายเงินเฟ้อเสร็จสิ้น ผมคิดว่านโยบายการเงินจำเป็นต้องมองไปข้างหน้า และสแกนขอบฟ้าเพื่อดูว่าอะไรคือการเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่ที่อาจนำไปสู่แรงกดดันเงินเฟ้อที่น้อยลงหรือมากกว่านั้น” Lane บอกกับ FT ในการสัมภาษณ์พอดแคสต์ที่บันทึกไว้ก่อนที่ข้อมูล Eurostat จะถูกเผยแพร่เมื่อวันที่ 29 พ.ย.
Lane บอกกับ FT ว่าในขณะที่อัตราเงินเฟ้อโดยรวมลดลงใกล้กับเป้าหมายของ ECB ที่ 2% แต่ก็ยังมี “ระยะทางอีกเล็กน้อย” และอัตราเงินเฟ้อด้านบริการจำเป็นต้องชะลอตัวลงอีก
ข้อมูล Eurostat แสดงให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อยูโรโซนเร่งตัวขึ้นในเดือนพฤศจิกายนเป็น 2.3% มากกว่าเดือนตุลาคมที่ 2.0% แต่เป็นไปตามการคาดการณ์ของตลาด และเพิ่มความระมัดระวังในการลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า
“เมื่อถึงจุดหนึ่ง เราจะเปลี่ยนผ่านจากการได้รับแรงผลักดันจากความท้าทายในการลดอัตราเงินเฟ้อที่สำคัญมาก ไปสู่ความท้าทายใหม่ในการรักษาอัตราเงินเฟ้อ (ที่) 2% บนพื้นฐานที่ยั่งยืน” เลนกล่าวเสริม
ECB ปรับลดอัตราดอกเบี้ยสามครั้งในปีนี้ โดยนักลงทุนเดิมพันว่าจะมีการลดอัตราดอกเบี้ยและการผ่อนคลายนโยบายอย่างต่อเนื่องในการประชุมทุกครั้งอย่างน้อยจนถึงเดือนมิถุนายนหน้า
คำแนะนำการอ่านบทความนี้ : บางบทความในเว็บไซต์ ใช้ระบบแปลภาษาอัตโนมัติ คำศัพท์เฉพาะบางคำอาจจะทำให้ไม่เข้าใจ สามารถเปลี่ยนภาษาเว็บไซต์เป็นภาษาอังกฤษ หรือปรับเปลี่ยนภาษาในการใช้งานเว็บไซต์ได้ตามที่ถนัด บทความของเรารองรับการใช้งานได้หลากหลายภาษา หากใช้ระบบแปลภาษาที่เว็บไซต์ยังไม่เข้าใจ สามารถศึกษาเพิ่มเติมโดยคลิกลิ้งค์ที่มาของบทความนี้ตามลิ้งค์ที่อยู่ด้านล่างนี้
ที่มาบทความนี้