หน้าแรกTHAI STOCKFPIT ระบุพื้นที่บางพลี-อยุธยา-EEC | RYT9

FPIT ระบุพื้นที่บางพลี-อยุธยา-EEC | RYT9



FPIT ระบุพื้นที่บางพลี-อยุธยา-EEC  รับกระแสการลงทุนไทย-ต่างประเทศ

นายโสภณ ราชรักษา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ อินดัสเตรียล (ประเทศไทย) จำกัด (FPIT) กล่าวว่า ปี 2566 ถือเป็นปีที่บริษัทต่างชาติย้ายและขยายฐานการผลิต จากประเทศจีน โรงงานและโกดังให้เช่าของประเทศไทยเป็นที่ต้องการของตลาดอย่างมาก เปิดโอกาสให้ประเทศไทยเป็นฐานทุนแห่งใหม่ คาดว่าระยะเวลาในการตั้งฐานจะขยายออกไปอีก 2-3 ปีข้างหน้า ซึ่งจะดึงดูดซัพพลายเออร์ธุรกิจที่ย้ายถิ่นฐานเข้ามาลงทุนในประเทศไทยเพิ่มเติม สำหรับอุตสาหกรรมที่โดดเด่นและน่าจับตามองคือกลุ่มยานยนต์ที่ความต้องการรถยนต์จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจภายในประเทศเริ่มมีเพิ่มมากขึ้น และการเข้ามาของรถยนต์ไฟฟ้าจากผู้ประกอบการต่างประเทศที่ให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิต รวมถึงกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ที่เติบโตสดใสจากความต้องการใช้ในภาคการผลิตของอุตสาหกรรมต่างๆ นอกจากนี้ธุรกิจอีคอมเมิร์ซยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่องเนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่ใช้จ่ายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้น

สำหรับพื้นที่ยุทธศาสตร์ของประเทศไทยที่มีศักยภาพรองรับการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ ได้แก่ บางพลี-บางนา ในเขตจังหวัดสมุทรปราการ พื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ที่มีความพร้อมทั้งโครงสร้างพื้นฐานและระบบสาธารณูปโภค รวมถึงสถานที่ที่รองรับระบบโลจิสติกส์ต่างๆ ส่วนบางพลี-บางนา ตอบโจทย์ธุรกิจโลจิสติกส์ที่ต้องการกระจายสินค้าในเขตกรุงเทพฯ ในขณะที่พระนครศรีอยุธยาเป็นประตูสู่การผลิตและการขนส่งสินค้าสู่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมถึง EEC ที่เหมาะกับการสนับสนุนธุรกิจการผลิต เช่น ชิ้นส่วนยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์ และธุรกิจโลจิสติกส์ที่ให้บริการนำเข้าส่งออก

ปัจจุบัน FPIT มีพื้นที่อาคารอุตสาหกรรม 3.5 ล้านตารางเมตรภายใต้การบริหาร เป็นอันดับ 1 ของประเทศ ในพื้นที่บางพลี-บางนา อยุธยา และ EEC รวมพื้นที่ 3.2 ล้านตารางเมตร และอีก 300,000 ตารางเมตร จำหน่ายในจังหวัดสมุทรสาคร ลำพูน ขอนแก่น และปราจีนบุรี ทั้งในประเทศอินโดนีเซียและเวียดนาม สะท้อนถึงศักยภาพและความพร้อมของบริษัท เพื่อรองรับทุกความต้องการของลูกค้าในอุตสาหกรรมต่างๆ ด้วยการจัดหาโรงงานและคลังสินค้าคุณภาพสูงด้วยโซลูชั่นที่ทันสมัยในรูปแบบอาคารอุตสาหกรรมสำเร็จรูป (Ready-Built) และรูปแบบการสร้างความต้องการของลูกค้า (Built-to-Suit)

ในปีนี้บริษัทได้เสริมสร้างขีดความสามารถเพื่อปลดล็อกประสบการณ์ที่เหนือกว่าของลูกค้า โดยเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์อุตสาหกรรมรายแรกในประเทศไทยที่พัฒนาอาคารฟังก์ชั่นพร้อมใช้ (Built-to-Function) ที่เพิ่มมาตรฐานและคุณสมบัติให้กับอาคารอุตสาหกรรมสำเร็จรูป บริษัทอยู่ระหว่างการพัฒนาอาคาร Built-to-Function แห่งแรก พื้นที่รวม 50,000 ตร.ม. โซนบางพลี สำหรับลูกค้าในกลุ่มบริการโลจิสติกส์ (3PL) ที่เชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์/บริการเฉพาะทาง รวมถึงลูกค้าในกลุ่ม FMCG และกลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม มีความต้องการพื้นที่โซนบางพลีอย่างต่อเนื่อง

“จากประสบการณ์ของ FPIT ในฐานะผู้นำตลาดและอยู่ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อุตสาหกรรมมายาวนาน พร้อมด้วยแนวทางการดำเนินงานโดยมีกลยุทธ์ที่เน้นความต้องการของลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Customer-Centric) บริษัทจึงเข้าใจความต้องการของลูกค้าทุกรายในแต่ละอุตสาหกรรมเป็นอย่างดี ด้วยพื้นฐานเหล่านี้ บริษัทจึงสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการด้วยโซลูชั่นใหม่ๆ ที่สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าอยู่เสมอ” นายโสภณ กล่าว

ขณะเดียวกัน FPIT ยังคงรักษาความเป็นผู้นำในการยกระดับมาตรฐานอาคารอุตสาหกรรม โดยการพัฒนาอาคารอุตสาหกรรมทุกแห่งของบริษัท ภายใต้แนวทางความยั่งยืน สอดคล้องกับกระแสโลกที่ให้ความสำคัญกับ ESG (สิ่งแวดล้อม สังคม ธรรมาภิบาล) และที่ลูกค้าชั้นนำให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ปัจจุบัน FPIT มีพื้นที่อาคารสีเขียวรวมอยู่ที่ ​มากกว่า 500,000 ตารางเมตร ได้รับการรับรองตามมาตรฐานสากลทั้ง LEED และ EDGE ซึ่งสูงที่สุดในบรรดาผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์อุตสาหกรรม นอกจากนี้ การออกแบบยังคำนึงถึงการปรับปรุงสุขภาพและความเป็นอยู่ของผู้ใช้อาคารอีกด้วย พร้อมตั้งเป้าหมายภายในปี 2569 จะเพิ่มพื้นที่อาคารสีเขียว 2 ล้านตารางเมตร

ด้วยความพร้อมของผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลายในระดับพรีเมี่ยมของ FPIT ซึ่งตั้งอยู่ในทำเลยุทธศาสตร์อุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ทั้งในพื้นที่บางพลี-บางนา อยุธยา และ EEC บริษัทมั่นใจว่าสามารถรองรับการเข้ามาของ ความต้องการ. ในตลาดมากขึ้น ตอบโจทย์การใช้งานของลูกค้าชาวไทยและต่างประเทศอย่างครอบคลุม และสนับสนุนการดำเนินธุรกิจที่มีประสิทธิภาพซึ่งจากความต้องการโรงงานและคลังสินค้าที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องพร้อมกับศักยภาพของ FPIT จะผลักดันให้บริษัทสามารถขยายพื้นที่ภายใต้การบริหารเป็น 4 ล้านตารางเมตรภายในปี 2569


     

คำแนะนำการอ่านบทความนี้ : บางบทความในเว็บไซต์ ใช้ระบบแปลภาษาอัตโนมัติ คำศัพท์เฉพาะบางคำอาจจะทำให้ไม่เข้าใจ สามารถเปลี่ยนภาษาเว็บไซต์เป็นภาษาอังกฤษ หรือปรับเปลี่ยนภาษาในการใช้งานเว็บไซต์ได้ตามที่ถนัด บทความของเรารองรับการใช้งานได้หลากหลายภาษา หากใช้ระบบแปลภาษาที่เว็บไซต์ยังไม่เข้าใจ สามารถศึกษาเพิ่มเติมโดยคลิกลิ้งค์ที่มาของบทความนี้ตามลิ้งค์ที่อยู่ด้านล่างนี้


Source link

RELATED ARTICLES
- Advertisment -
Technical Summary Widget Powered by Investing.com

ANALYSIS TODAY

Translate »