บล.บียอนด์ ( BYD) ตั้งเป้าปี’65 กำไรพลิก ชูจุดแกร่งด้านเทคโนโลยี รุกธุรกิจหลักทรัพย์เสิร์ฟโปรแกรมเทรด “MT5” ขยายพอร์ตลูกค้า คาดคว้ามาร์เก็ตแชร์ 2% ปีหน้า มั่นใจหนุนผลงานโตก้าวกระโดดลุยปรับโครงสร้างเป็นโฮลดิ้งปลายปีนี้
วันที่ 19 กรกฎาคม 2565 นางสาวออมสิน ศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์บียอนด์ จำกัด (มหาชน ) หรือ ( BYD) กล่าวว่า ภาพรวมการดำเนินธุรกิจในปี 2565 ว่า รายได้จากธุรกิจหลักมีแนวโน้มการเติบโตในทิศทางที่ดีขึ้นจากปีที่ผ่านมาอย่างชัดเจน โดยให้ความสำคัญในการสร้างรายได้เพิ่มขึ้นทั้งจากธุรกิจนายหน้าค้าหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (โบรกเกอร์) รายได้จากค่าธรรมเนียมและบริการที่ปรึกษาทางการเงิน ทั้งตราสารทุนและตราสารหนี้
รวมถึงรายได้จากการกิจการขนส่งมวลชนที่ BYD ได้ลงทุนผ่านบริษัทร่วม ชื่อ บริษัท เอช อินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (ACE) โดย ACE เข้าถือหุ้น 100% ในบริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด (TSB) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการเดินรถประจำทางในเขตกรุงเทพมหานครและจังหวัดที่มีพื้นที่ต่อเนื่องด้วยรถบัสไฟฟ้า
ซึ่งหากโครงการขยายการลงทุนของ TSB ครั้งนี้ เป็นไปตามที่คาดไว้ ก็จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่สุดของระบบขนส่งมวลชนของประเทศไทย ที่จะสามารถเชื่อมต่อการเดินทางของสายรถเมล์ได้เป็นจำนวนอย่างน้อยถึง 122 สายเข้าด้วยกัน และยังเชื่อมไปยังเรือไฟฟ้าที่ให้บริการในแม่น้ำเจ้าพระยาด้วย เกิดเป็นโครงข่ายที่ครอบคลุมพื้นที่ในการให้บริการในวงที่กว้างจากกรุงเทพมหานคร กินพื้นที่ไปยังจังหวัดที่มีพื้นที่ต่อเนื่องทั้งหมดได้
และสามารถนำระบบเหมาค่าตั๋วโดยสารราคาถูกมาใช้ เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางของประชาชนได้ อีกทั้งลดมลพิษจากการปรับเปลี่ยนยานพาหนะแบบเดิมที่เก่า และสร้างมลพิษ ไปสู่การใช้ยานยนต์ไฟฟ้าที่ไม่มีไอเสีย สะอาด ทันสมัย ไม่มีเสียงดัง ขับขี่ปลอดภัย และสามารถผลิตได้เองในประเทศไทย
“ผลสำเร็จจากการดำเนินการตามแผนดังกล่าว จะเป็นหนทางที่นำไปสู่การปรับโครงสร้างของ BYD เป็นบริษัทลงทุน หรือ Holding company ในที่สุด ซึ่งอยู่ระหว่างการจัดทำแผนและจะเริ่มดำเนินการในไตรมาสที่ 3 นี้ โดย BYD มีเป้าหมายที่จะไม่เป็นเพียงผู้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ แต่จะนำเทคโนโลยีเข้ามาผลักดันการเติบโตของบริษัทฯ ในทุก ๆ ด้าน และตอบแทนสังคมในวงกว้าง พร้อมทั้งตั้งเป้าหมายที่จะร่วมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เพื่อให้สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นอย่างยั่งยืนอีกด้วย” นางสาวออมสิน กล่าว
ด้านนางสาวปทิตตา มิลินทจินดา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการตลาด กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทฯ ตั้งเป้าที่จะพลิกขึ้นมามีกำไรจากการดำเนินงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของธุรกิจหลักทรัพย์ จะเติบโตได้อย่างก้าวกระโดดอันเป็นผลมาจากการลงทุนทั้งด้านระบบงานและบุคลากร ซึ่งวางเป้าหมายมาร์เก็ตแชร์ปี 2566 เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 1-2 % จากปี 2564 อยู่ที่ 0.1-0.2%
ขณะที่ในปี 2567 คาดว่าจะเพิ่มขึ้นไปแตะอันดับ 1 ใน 10 ของธุรกิจหลักทรัพย์ต่อไป ล่าสุด BYD ได้พัฒนาโปรแกรมเทรด “ Beyond Intelligence Trading ” (MT5) ร่วมกับคู่ค้า เพื่อตอบสนองลูกค้า มุ่งเน้นคุณภาพการให้บริการ และยังเป็นการขยายฐานลูกค้า ด้วยการนำเทคโนโลยีมาสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนทั้งในสภาวะตลาดขาขึ้นและขาลง
โดย MT5 จะเป็นโปรแกรมที่ช่วยนักลงทุนวิเคราะห์และซื้อขายหุ้นอัตโนมัติด้วย Robot และยังมีระบบอัจฉริยะที่คอยช่วยจับตาความเคลื่อนไหวของ Volume, Bid/Ask, Ticker ในตลาดได้รวดเร็วและ real-time ซึ่งได้เริ่มให้บริการเต็มรูปแบบแล้วในวันนี้ และปัจจัยที่สำคัญอีกด้านหนึ่งคือ ตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา
บริษัทฯ มีการรับเจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำการลงทุน (มาร์เก็ตติ้ง) เข้ามาเพิ่มขึ้น ลงทุนระบบการซื้อขายหลักทรัพย์ให้มีความสะดวกรวดเร็ว รวมทั้งได้พัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีใหม่ๆเข้าเพิ่มศักยภาพและสร้างผลตอบแทน แม้เผชิญกับความผันผวนจากสถานการณ์เศรษฐกิจและสถานการณ์โลกแต่ยังมีการพัฒนาต่อเนื่อง
ด้านรายได้จากค่าธรรมเนียมและบริการ จะมีรายได้จากธุรกิจที่ปรึกษาทางการเงินในการนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ 2 ราย และบริการด้านวาณิชธนกิจอื่นอีก 4-5 ราย รวมทั้งมีรายได้จากการเป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายทั้งหุ้นกู้และหุ้นไอพีโอมากขึ้น ซึ่งในครึ่งปีแรกได้ร่วมเป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายหุ้นไอพีโอให้กับ 2 บริษัท คือ บริษัท ฟังก์ชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) (FTI) และ บริษัท ฑีฆาก่อสร้าง จำกัด (มหาชน) (TEKA) ทำให้มั่นใจว่าธุรกิจหลักทรัพย์จะเติบโตก้าวกระโดด
อ่านข่าวต้นฉบับ: BYD คาดกำไรธุรกิจหลักทรัพย์โตเด่น ดันมาร์เก็ตแชร์ปี’66 แตะ 2%
คำแนะนำการอ่านบทความนี้ : บางบทความในเว็บไซต์ ใช้ระบบแปลภาษาอัตโนมัติ คำศัพท์เฉพาะบางคำอาจจะทำให้ไม่เข้าใจ สามารถเปลี่ยนภาษาเว็บไซต์เป็นภาษาอังกฤษ หรือปรับเปลี่ยนภาษาในการใช้งานเว็บไซต์ได้ตามที่ถนัด บทความของเรารองรับการใช้งานได้หลากหลายภาษา หากใช้ระบบแปลภาษาที่เว็บไซต์ยังไม่เข้าใจ สามารถศึกษาเพิ่มเติมโดยคลิกลิ้งค์ที่มาของบทความนี้ตามลิ้งค์ที่อยู่ด้านล่างนี้
Source link : ต้นฉบับเนื้อหาข่าวนี้