หน้าแรกTHAI STOCKAWS หุ้นตัวแรกบนกระดาน LiveX ซื้อขายต้น ก.ย. ราคาไอพีโอ 2-2.70 บาท

AWS หุ้นตัวแรกบนกระดาน LiveX ซื้อขายต้น ก.ย. ราคาไอพีโอ 2-2.70 บาท

“แอดวานซ์ เว็บ เซอร์วิส” เอสอีเอ็มบริษัทแรกนำร่องจดทะเบียนซื้อขายบนกระดานหุ้น LiveX คาดเปิดเทรดวันแรกต้น ก.ย.65 อันเดอร์ไรเตอร์เคาะช่วงราคาไอพีโอ 2-2.70 บาท “ซีอีโอ” คาดหวังภายใน 2 ปีดันบริษัทเข้าตลาด mai หวังธุรกิจระบบบริหารจัดการตั๋วและไอทีโซลูชั่น New S-Curve ดันอัตราทำกำไรมากกว่า 20%

วันที่ 9 สิงหาคม 2565 นายวิโรจน์ ศิริรัตนรักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ เว็บ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AWS ธุรกิจออกแบบพัฒนาดิจิทัลเทคโนโลยีทางด้านไอทีโซลูชั่น และให้บริการ On-cloud Digital Platform ซึ่งก่อตั้งมาแล้ว 15 ปี เปิดเผยในงานนำเสนอข้อมูลบริษัทเพื่อนำเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไลฟ์เอ็กซ์เช้นจ์(LiveX) ว่า

บริษัทจะใช้ชื่อย่อหุ้นว่า AWS22 ซึ่งข้อมูลบริษัททั้งหมดได้รับการอนุมัติไฟลิ่งจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ไปเมื่อสิ้นเดือน ก.ค.65 ที่ผ่านมา โดยมีแผนเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนใหม่ไม่เกิน 40 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 16.67% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดภายหลังการออกและเสนอขายหุ้นครั้งนี้ มีมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.5 บาทต่อหุ้น และมีทุนจดทะเบียนหลังการออกและเสนอขายหุ้นครั้งนี้ อยู่ที่ 120 ล้านบาท จากเดิมมีทุนจดทะเบียนก่อนออกเสนอขายหุ้นไอพีโออยู่ที่ 100 ล้านบาท

โดยภายในเดือน ส.ค.65 บริษัทจะอยู่ในช่วงการจัดสรรโควต้าเพื่อเสนอขายหุ้นแก่นักลงทุน และประมาณปลายเดือน ส.ค.65 จะกำหนดวันจองซื้อหุ้น และคาดว่าประมาณช่วงต้นเดือน ก.ย.65 จะสามารถเข้าซื้อขายเป็นวันแรกในตลาดหุ้น LiveX ได้

ซึ่งจะเป็นบริษัทรายแรกที่เข้าระดมทุนในกระดานหุ้นดังกล่าว โดยเบื้องต้นทางบริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จำกัด (KTX) ซึ่งเป็นผู้จัดจำหน่าย(Underwriter) ได้กำหนดช่วงราคาไอพีโออยู่ที่ 2-2.70 บาท

“ผมตื่นเต้นมากที่จะนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้น LiveX เป็นรายแรก ซึ่งมองว่าเป็นโอกาสดีที่ทั้งตลาดหลักทรัพย์และสำนักงาน ก.ล.ต.ได้เปิดกระดานหุ้นนี้ขึ้นมา เพื่อให้ธุรกิจเอสเอ็มอีและสตาร์ตอัพตัวเล็ก ๆ อย่างเรา ได้เกิดการระดมทุนและเติบโตในอนาคตได้

ซึ่งเราต้องมีการเตรียมตัวพอสมควร และตอนนี้เราได้รับความช่วยเหลือจากที่ปรึกษาต่าง ๆ ทำให้ทิศทางของบริษัทกระชับและมั่นคงมากขึ้น” นายวิโรจน์ กล่าว

ทั้งนี้บริษัทคาดหวังอัตราการทำกำไรหลังจากเข้าระดมทุนในตลาดหุ้น LiveX จะมีการเติบโตมากกว่าปีปกติ(ก่อนปีโควิด) ที่เคยอยู่ระดับ 5-20% และคาดหวังว่าภายในระยะเวลา 2-3 ปีต่อจากนี้บริษัทมีแผนเตรียมไฟลิ่งเพื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai ต่อไป

“ช่วงการแพร่ระบาดโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อรายได้บริษัท ทำให้ในปี 2564 บริษัทมีรายได้รวมแค่ 67.02 ล้านบาท ลดลงจากปี 2563 ที่มีรายได้ 90.15 ล้านบาท โดยมีสัดส่วนรายได้หลักจาก 1.บริการระบบเติมเงิน 24.07 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 35.91% 2.รายได้จากการให้บริการระบบสารสนเทศ 36.27 ล้านบาท สัดส่วน 54.12% และ 3.รายได้จากการขายสินค้า 6.68 ล้านบาท สัดส่วน 9.97%

แต่อย่างไรก็ดี แม้ว่ารายได้รวมจะปรับตัวลดลง แต่ EBITDA ในปี 2564 ยังปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 21.30 ล้านบาท จากปี 2563 อยู่ที่ 20.30 ล้านบาท โดยปี 2564 มีกำไรสุทธิ 9.80 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากปี 2563 ที่มีกำไร 3.90 ล้านบาท

สำหรับธุรกิจหลักของบริษัทแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มคือ 1.ธุรกิจระบบเติมเงินและตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ ประกอบด้วย 1.1.ระบบเติมเงิน ชำระค่าสินค้าและบริการออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ 1.2.ระบบเติมเงิน ชำระค่าสินค้าและบริการออนไลน์ผ่านตู้เติมเงิน 1.3.บริการเชื่อมต่อ ระบบเติมเงิน ชำระค่าสินค้าและบริการออนไลน์ผ่าน API Gateway และ 1.4.ระบบบริหารจัดการและตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ(Advance Vending)

2.ธุรกิจระบบบริหารจัดการตั๋วและไอทีโซลูชั่น ประกอบด้วย 2.1.ระบบบริหารจัดการตั๋วแบบครบวงจร We love booking 2.2.ระบบบริหารจัดการลูกค้าและสมาชิก คูปอง และบัตรเงินสด We love CRM& Social Commerce 2.3.ระบบบริหารจัดการจองคิวนัดหมาย AMS 2.4.ระบบ balance Blockchain และ 2.5.พัฒนาระบบ E-Commerce, Web-Application, Payment Solution และ IT Solution อื่น ๆ

โดย AWS เป็นธุรกิจในลักษณะ B2B2C โดยมีฐานลูกค้าหลักคือบริษัทเอกชน สัดส่วน 98% ส่วนที่เหลือ 2% เป็นลูกค้าหน่วยงานราชการ ซึ่งในช่วงปลายปี 2565-2566 บริษัทจะมีลูกค้าจากหน่วยงานราชการเพิ่มเข้ามาอีก

โดยบริษัทมีแผนในอนาคตมุ่งเน้นการเติบโตผ่านธุรกิจระบบบริหารจัดการตั๋วและไอทีโซลูชั่นมากขึ้น เพราะเป็นกลุ่มธุรกิจ High Growth High Margin โดยธุรกิจที่เป็นพระเอกคือระบบบริหารจัดการตั๋วแบบครบวงจร We love booking และตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ(Advance Vending) ส่วนธุรกิจ Blockchain คาดหวังการโตในระยะยาว ซึ่งเป็น New S-Curve ของบริษัทต่อไปในอนาคต

สำหรับวัตถุประสงค์ในใช้เงินจากการะดมทุนครั้งนี้คือ 1.ขยายโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อรองรับการพัฒนาในช่วงปี 65-66 สัดส่วน 8.50% 2.โครงการพัฒนาระบบบริการ Web 3.0 (Blockchain as a service) ในช่วงปี 65-66 สัดส่วน 15% 3.โครงการพัฒนาระบบตั๋วบล็อคเชนในช่วงปี 65-66 สัดส่วน 10% 4.ขยายแผนธุรกิจตู้ขายสินค้าอัตโนมัติ รวมถึงขายสินค้ากับพันธมิตรทางธุรกิจในปี 65 สัดส่วน 15%

5.โครงการปรับปรุงเพิ่มเติมระบบรับรองมาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจและพัฒนาศักยภาพบุคลากร ในช่วงปี 65-67 สัดส่วน 6% 6.ลงทุนด้านการขยายพื้นที่ปฏิบัติงาน ในช่วงปี 65 สัดส่วน 3.50% 7.ลงทุนด้านเครื่องมือ อุปกรณ์ทั้งออฟไลน์และออนไลน์เพื่อขยายงานทางการตลาด ในช่วงปี 65-67 สัดส่วน 12% และ 8.เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการในช่วงปี 65-67 สัดส่วน 30%

แหล่งข่าวรายหนึ่งระบุว่า ทาง AWS จะเข้าจดทะเบียนซื้อขายวันแรกช่วงวันศุกร์ที่ 9 ก.ย.2565

อ่านข่าวต้นฉบับ: AWS หุ้นตัวแรกบนกระดาน LiveX ซื้อขายต้น ก.ย. ราคาไอพีโอ 2-2.70 บาท

     

คำแนะนำการอ่านบทความนี้ : บางบทความในเว็บไซต์ ใช้ระบบแปลภาษาอัตโนมัติ คำศัพท์เฉพาะบางคำอาจจะทำให้ไม่เข้าใจ สามารถเปลี่ยนภาษาเว็บไซต์เป็นภาษาอังกฤษ หรือปรับเปลี่ยนภาษาในการใช้งานเว็บไซต์ได้ตามที่ถนัด บทความของเรารองรับการใช้งานได้หลากหลายภาษา หากใช้ระบบแปลภาษาที่เว็บไซต์ยังไม่เข้าใจ สามารถศึกษาเพิ่มเติมโดยคลิกลิ้งค์ที่มาของบทความนี้ตามลิ้งค์ที่อยู่ด้านล่างนี้


Source link : ต้นฉบับเนื้อหาข่าวนี้

RELATED ARTICLES
- Advertisment -
Technical Summary Widget Powered by Investing.com

ANALYSIS TODAY

Translate »