ตลาดหุ้นไทยยังมีเสน่ห์อยู่มั้ย?! หลายๆ ภาคส่วนจะยังมีการเติบโตในอนาคตหรือไม่? ต้องเพิ่มภาคไหนถึงจะเป็น New S-Curve ของตลาด? จะทำอย่างไรเพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ? มาฟังคำตอบจากนางพรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการกันครับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (วินาที) ให้สัมภาษณ์พิเศษกับ “อินโฟเควสท์”
*สนับสนุนธุรกิจ New S-Curve เข้าสู่ตลาด
เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า ในด้านการพัฒนาตลาดทุนไทยนั้น ก.ล.ต. มีความมุ่งมั่นในการทำให้ผลิตภัณฑ์ของตลาดทุนไทยมีความน่าสนใจมากขึ้น สามารถตอบสนองต่อกระแสธุรกิจและการเปลี่ยนแปลงในอนาคตได้ ก.ล.ต. ได้กำหนดแนวทางปฏิบัติให้กับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย วางภาพโปรโมทให้ชัดเจน รวมถึงตัวรัฐบาลเองก็ต้องชัดเจนว่าต้องการส่งเสริมอะไร เพื่อร่วมกันทำให้ตลาดทุนไทยมีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น
แม้ว่าตลาดหุ้นไทยจะให้เงินปันผลที่ดี แต่สิ่งที่นักลงทุนต้องการไม่ใช่แค่เงินปันผลเท่านั้น แต่เป็นความคาดหวังการเติบโตของธุรกิจที่ต่อเนื่องและมั่นคง ทำให้ผลตอบแทนจากการลงทุนเติบโตตามไปด้วย กลไกสำคัญประการหนึ่งที่จะสร้างการเติบโตของตลาดทุนไทยที่แตกต่างจากเศรษฐกิจเดิมคือการมีผลิตภัณฑ์ New S-Curve เช่น พลังงานทดแทนรูปแบบใหม่ ธุรกิจที่ตอบสนองความต้องการทางสังคมในด้าน Green, Digital และ Aging Society กำลังเข้าสู่ตลาดทุนมากขึ้น ก.ล.ต. ควรพิจารณาปรับเกณฑ์ที่เป็นอุปสรรคต่อบางภาคส่วนหรือไม่ เพื่อเปิดโอกาสให้กับธุรกิจใหม่ ในอนาคต
นางพรอนงค์ กล่าวว่า ล่าสุดตลาดทุนไทยมีการพัฒนาที่ดีในด้านสีเขียว จะเห็นได้ว่าบริษัทจดทะเบียนและผู้ระดมทุนในกลุ่มนี้หันมาใช้กลไกของตลาดทุนไทยมากขึ้น ที่มองว่า ESG เป็นทางออก ไม่ใช่เป็นเพียงทางเลือก จะมีเงินไปลงทุนในกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับ ESG ที่เป็นการเปลี่ยนผ่านทางธุรกิจได้อย่างไร? วิธีดูการมองเห็นในเรื่องนี้ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบของตลาดทุนไทย
รวมถึงการเปิดเผย One Report ของบริษัทจดทะเบียนเพื่อให้นักลงทุนได้ทราบข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมของบริษัทจดทะเบียนในอดีต และนักวิเคราะห์สามารถใช้เพื่อการวิเคราะห์และเปรียบเทียบได้
“ผมเชื่อว่าใครๆ ก็อยากเข้าสู่ตลาดที่มีการจัดการที่ดีและไม่เอาเปรียบ แต่สินค้าที่ขายอาจไม่น่าสนใจ หรือไม่สามารถแข่งขันกับตลาดอื่นได้ ที่นี่เราต้องหาแนวทางทำอย่างไร ถ้าพูดถึงภาพรวมก็เหมือนกับว่าจะทำ Soft Power Generate GDP ให้กับประเทศได้อย่างไร
ในตลาดทุนไทย เรามีแนวปฏิบัติที่จับต้องไม่ได้ของบริษัทจดทะเบียนที่ทำงานร่วมกัน ทำให้ตลาดทุนไทยมีความน่าสนใจ แต่เราต้องมองหาสิ่งใหม่ๆ เข้ามาในภาค ที่น่าสนใจและตอบสนองต่อกระแสธุรกิจในปัจจุบันด้วย” นางพรอนงค์ กล่าว
การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ ก.ล.ต. ให้ความสำคัญมากขึ้นกับ Green Product หรือ Transition Finance ซึ่งได้รับฟังเรื่องความไว้วางใจในการลงทุนสีเขียวในการมีป่าไม้ที่มีคุณค่า และเมื่อมีการใช้ที่ดินเชิงพาณิชย์เกิดขึ้น ระหว่างทางก็มีคาร์บอน จะสร้างเป็นสินค้าในตลาดทุนได้อย่างไร?
เช่นเดียวกับเมื่อปลายปีที่แล้ว Thailand ESG Fund เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เป็นการส่งเสริมให้คนทำความดี รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี มีทัศนวิสัยในจักรวาล ลงทุน ฯลฯ
*ชาวต่างชาติมาเมื่อเห็นคุณค่า
ส่วนประเด็นนักลงทุน เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า ก.ล.ต. ให้ความสำคัญกับนักลงทุนทุกกลุ่ม และทำให้ผู้ลงทุนมั่นใจในสิ่งที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ และ ก.ล.ต. ได้กำหนดมาตรการควบคุมที่เข้มงวดยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการดูแลระบบ Program Trading และ Short Selling รวมถึงดำเนินการกับผู้กระทำผิดในกรณีที่บ่อนทำลายความเชื่อมั่นของนักลงทุน โดยเฉพาะคดีทุจริต บริษัท สตาร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (STARK) การสร้างราคาหุ้น บริษัท มอร์ รีเทิร์น จำกัด (มหาชน) (MORE)
นอกจากนี้ ก.ล.ต. และ ก.ล.ต. จะใช้เครื่องมืออื่น ๆ เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนชาวไทยและต่างประเทศ เท่าที่ออกมาตรการไปบ้างก็ได้รับการตอบรับค่อนข้างดี จะเห็นได้ว่ามูลค่าการซื้อขายของตลาดหุ้นไทยกลับมาบ้างแล้ว
“ถึงแม้จะมีหลายปัจจัย แต่สิ่งที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ก.ล.ต. และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอื่น ๆ ตอบคำถามมากมายเพื่อให้มั่นใจในการปฏิบัติตามข้อกำหนดอีกคำถามหนึ่งคือมั่นใจในความเท่าเทียมกัน การสร้างระเบียบในตลาดทุนผู้กระทำผิดสามารถเกิดขึ้นได้ จะต้องรับผิดชอบหรือไม่มั่นใจในการตรวจสอบการบังคับใช้กฎหมายดำเนินการอย่างรวดเร็วซึ่งต้องมีการปรับเปลี่ยนและแก้ไขหลักเกณฑ์การรายงานและเป็นสิ่งที่ ก.ล.ต. ดำเนินการกับผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง” เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าว
นางพรอนงค์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ชาวต่างชาติที่มาลงทุนในตลาดหุ้นไทยต้องเห็นคุณค่าของตลาดหุ้นไทยก่อน สิ่งที่กระตุ้นให้นักลงทุนต่างชาติสนใจตลาดหุ้นไทย ยังมีมิติอื่นๆ ที่น่าสนใจ เช่น ESG หรือวิธีการทำให้นักลงทุนต่างชาติทราบข้อมูล และความโปร่งใสในการเปิดเผยข้อมูล บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เปิดเผยข้อมูลที่ได้รับการรับรองทุกไตรมาส ที่ผ่านมาต่างประเทศก็ชื่นชมเรื่องนี้ แสดงให้เห็นว่าบริษัทจดทะเบียนไทยมีความโปร่งใสและเพียงพอ รวมถึงการรายงานข้อมูลอย่างสม่ำเสมอ
คำแนะนำการอ่านบทความนี้ : บางบทความในเว็บไซต์ ใช้ระบบแปลภาษาอัตโนมัติ คำศัพท์เฉพาะบางคำอาจจะทำให้ไม่เข้าใจ สามารถเปลี่ยนภาษาเว็บไซต์เป็นภาษาอังกฤษ หรือปรับเปลี่ยนภาษาในการใช้งานเว็บไซต์ได้ตามที่ถนัด บทความของเรารองรับการใช้งานได้หลากหลายภาษา หากใช้ระบบแปลภาษาที่เว็บไซต์ยังไม่เข้าใจ สามารถศึกษาเพิ่มเติมโดยคลิกลิ้งค์ที่มาของบทความนี้ตามลิ้งค์ที่อยู่ด้านล่างนี้
Source link