ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นมากกว่า 100 จุด ขณะที่วอลล์สตรีทปิดการซื้อขายในปี 2566 ในสัปดาห์นี้
เมื่อเวลา 01:18 น. ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 37,663.97 จุด บวก 118.64 จุด หรือ 0.32%
หุ้นของ Microsoft Corp. ร่วงลงเมื่อเทียบกับตลาด หลังจากถูกนิวยอร์กไทม์สฟ้องร้องเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์
นิวยอร์กไทม์ส หนังสือพิมพ์รายใหญ่ของสหรัฐฯ ประกาศฟ้องร้อง Microsoft และ OpenAI ผู้พัฒนาแชทบอท ChatGPT โดยกล่าวหาว่าทั้งสองบริษัทละเมิดสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาของ New York Times
เดอะนิวยอร์กไทมส์ยื่นฟ้องต่อศาลแขวงสหรัฐในนิวยอร์ก คดีดังกล่าวอ้างว่า Microsoft และ OpenAI ต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายหลายพันล้านดอลลาร์ ซึ่งเกิดจากการคัดลอกและใช้งานผลงานที่มีคุณค่าและมีเอกลักษณ์โดย New York Times อย่างผิดกฎหมาย
เดอะนิวยอร์กไทมส์ เป็นหนึ่งในองค์กรสื่อที่ได้ยื่นฟ้องบริษัทที่พัฒนารูปแบบปัญญาประดิษฐ์ขั้นสูง (AI) โดยกล่าวหาว่าพวกเขาใช้เนื้อหาสื่อของตนเพื่อป้อนข้อมูล เพื่อพัฒนาโปรแกรม AI ดังกล่าว
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นติดต่อกันในช่วง 8 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยได้รับการสนับสนุนจากธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ส่งสัญญาณยุติวงจรการขึ้นอัตราดอกเบี้ย และจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า
นักลงทุนคาดว่าเฟดจะเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมีนาคม 2567 และเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 6 ครั้งในปี 2567 โดยจะลดอัตราดอกเบี้ยครั้งละ 0.25% รวมเป็น 1.50% ซึ่งมากกว่าที่เฟดส่งสัญญาณให้ลดดอกเบี้ย อัตรา 3 ครั้ง ครั้งละ 0.25% รวมเป็น 0.75%
ตลาดจับตาปรากฏการณ์ “Santa Rally” ใน Wall Street ในปีนี้ โดยปกติจะใช้เวลา 7 วันทำการ โดยเกิดขึ้นในช่วง 5 วันทำการสุดท้ายของปีปัจจุบันและ 2 วันแรกของปีใหม่
ข้อมูลบ่งชี้ว่าดัชนี Dow, S&P 500 และ Nasdaq ล้วนเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ตอบรับสัญญาณเฟดลดดอกเบี้ยปีหน้า หลังจากที่อัตราเงินเฟ้อชะลอตัวลง
ล่าสุด นายโรเบิร์ต แคปแลน อดีตประธาน Dallas Fed กล่าวเมื่อวานนี้ว่า เขาคาดว่า Fed จะเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยเร็วๆ นี้ เนื่องจากเฟดต้องการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะเข้าสู่ภาวะถดถอย
นายแคปแลนกล่าวว่าเฟดต้องการหลีกเลี่ยงนโยบายการเงินที่เข้มงวดมากเกินไป สิ่งนี้ทำให้ Fed จำเป็นต้องลดอัตราดอกเบี้ยหากอัตราเงินเฟ้อยังคงชะลอตัว
“สาเหตุหนึ่งที่เราเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อก็คือเฟดผ่อนปรนมาเป็นเวลานานเกินไป แม้ว่าเศรษฐกิจจะดีดตัวขึ้น และผมคิดว่าเฟดไม่อยากทำผิดพลาดเหมือนเดิมด้วยการเข้มงวดนโยบายการเงินนานเกินไป ในขณะที่เศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อเริ่มอ่อนตัวลง” แคปแลนกล่าวในรายการ Squawk Box ของ CNBC
การปรับดัชนี Dow Jones, S&P 500 และ Nasdaq ในเดือนธันวาคม ไตรมาสที่ 4 และตั้งแต่ต้นปี 2566 มีดังนี้:-
– ดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 4.4% ในเดือนธันวาคม, 12.1% ในไตรมาสที่สี่ และ 13.3% นับตั้งแต่ต้นปี 2566
– ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 4.5% ในเดือนธันวาคม, 11.4% ในไตรมาสที่ 4 และ 24.4% นับตั้งแต่ต้นปี 2566
– ดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 6% ในเดือนธันวาคม 14% ในไตรมาส 4 และ 44% นับตั้งแต่ต้นปี 2566
การเพิ่มขึ้น 44% ของดัชนี Nasdaq นับตั้งแต่ต้นปี 2566 ถือเป็นการเพิ่มขึ้นสูงสุดเมื่อเทียบเป็นรายปีนับตั้งแต่ปี 2546
คำแนะนำการอ่านบทความนี้ : บางบทความในเว็บไซต์ ใช้ระบบแปลภาษาอัตโนมัติ คำศัพท์เฉพาะบางคำอาจจะทำให้ไม่เข้าใจ สามารถเปลี่ยนภาษาเว็บไซต์เป็นภาษาอังกฤษ หรือปรับเปลี่ยนภาษาในการใช้งานเว็บไซต์ได้ตามที่ถนัด บทความของเรารองรับการใช้งานได้หลากหลายภาษา หากใช้ระบบแปลภาษาที่เว็บไซต์ยังไม่เข้าใจ สามารถศึกษาเพิ่มเติมโดยคลิกลิ้งค์ที่มาของบทความนี้ตามลิ้งค์ที่อยู่ด้านล่างนี้
Source link