ดัชนีดาวโจนส์ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดทะยานขึ้นกว่า 200 จุด ทะลุ 34,000 จุด โดยได้แรงหนุนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ลดลงต่ำกว่า 4.6% ในวันนี้
เมื่อเวลา 01.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 34,160.07 จุด บวก 268.13 จุด หรือ 0.79%
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีร่วงลงหลังจากดีดตัวขึ้นเหนือ 4.6% ในช่วงแรก ตามคำแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐ เจอโรม พาวเวลล์ ซึ่งส่งสัญญาณถึงความเคลื่อนไหวในการขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพื่อหยุดยั้งภาวะเงินเฟ้อ
“คณะกรรมการตลาดกลางเปิด (FOMC) มุ่งมั่นที่จะบรรลุนโยบายการเงินที่เข้มงวดเพียงพอที่จะรักษาอัตราเงินเฟ้อให้ต่ำกว่า 2% แต่เรายังไม่มั่นใจว่าเราได้บรรลุเป้าหมายดังกล่าวแล้ว”
“หากเหมาะสมที่จะกระชับนโยบายให้มากขึ้น เราจะไม่ลังเลที่จะดำเนินการ แต่เราจะทำด้วยความระมัดระวัง โดยหลีกเลี่ยงความเสี่ยงของการเข้มงวดนโยบายการเงินมากเกินไป และความเสี่ยงที่จะเข้าใจผิดข้อมูลดีๆ เพียงไม่กี่เดือนเท่านั้น” พาวเวลล์กล่าวเมื่อวานนี้ที่การประชุมวิจัยประจำปี Jacques Polak ครั้งที่ 24 ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF)
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงให้น้ำหนักกับการคาดการณ์ เฟดคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธันวาคม แม้นายพาวเวลล์จะส่งสัญญาณว่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปก็ตาม
นอกจากนี้นักลงทุนคาดหวังว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยต่อไป โดยไม่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ก่อนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายน 2567
เครื่องมือ FedWatch ล่าสุดของ CME Group ระบุว่านักลงทุนให้น้ำหนัก 85.4% แก่ Fed เพื่อรักษาอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 12-13 ธันวาคม
ในขณะเดียวกัน นักลงทุนคาดว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 5.25-5.50% ในการประชุมในเดือนมกราคม มีนาคม และพฤษภาคม 2567 ก่อนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเหลือ 0.25% ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมเดือนมิถุนายน
คำแนะนำการอ่านบทความนี้ : บางบทความในเว็บไซต์ ใช้ระบบแปลภาษาอัตโนมัติ คำศัพท์เฉพาะบางคำอาจจะทำให้ไม่เข้าใจ สามารถเปลี่ยนภาษาเว็บไซต์เป็นภาษาอังกฤษ หรือปรับเปลี่ยนภาษาในการใช้งานเว็บไซต์ได้ตามที่ถนัด บทความของเรารองรับการใช้งานได้หลากหลายภาษา หากใช้ระบบแปลภาษาที่เว็บไซต์ยังไม่เข้าใจ สามารถศึกษาเพิ่มเติมโดยคลิกลิ้งค์ที่มาของบทความนี้ตามลิ้งค์ที่อยู่ด้านล่างนี้
Source link