ดัชนีดาวโจนส์พุ่งต่อเนื่อง ล่าสุดพุ่งขึ้นกว่า 100 จุด หลังสหรัฐฯ เผยยอดผู้ขอสวัสดิการว่างงานเกินคาด ซึ่งจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ณ เวลา 23:47 น. ตามเวลาไทย ค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 33,794.81 จุด บวก 129.79 จุด หรือ 0.39%
กรมแรงงานกล่าวว่าจำนวนผู้ขอสวัสดิการว่างงานเบื้องต้นเพิ่มขึ้น 28,000 รายเป็น 261,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2564 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 235,000 ราย
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ และการลดลงของผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ
การอ่อนค่าของเงินดอลลาร์จะหนุนกำไรของบริษัทจดทะเบียนที่มีรายได้จากต่างประเทศ สำหรับการลดลงของอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ซึ่งเป็นพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ใช้อ้างอิงในการกำหนดราคาพันธบัตรทั่วโลก รวมถึงอัตราดอกเบี้ยจำนองของสหรัฐฯ จะทำให้ผู้บริโภคมีเงินจับจ่ายมากขึ้น และช่วยลดต้นทุนการชำระหนี้ของบริษัทต่างๆ ทำให้บริษัทเหล่านี้สามารถเพิ่มการลงทุนและเพิ่มการจ่ายเงินปันผลให้กับนักลงทุนได้
นักลงทุนยังคงให้น้ำหนักกับการคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมปลายเดือนนี้ แม้ว่าธนาคารแห่งประเทศแคนาดาและออสเตรเลียจะประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยเมื่อวานนี้
เครื่องมือ FedWatch ล่าสุดของ CME Group บ่งชี้ว่านักลงทุน 70.1% ชั่งน้ำหนักให้เฟดคงอัตราดอกเบี้ยระหว่าง 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 13-14 มิถุนายน และ 29.9% ชั่งน้ำหนักเฟด อัตราดอกเบี้ย 0.25% ถึง 5.25-5.50%
ธนาคารกลางแคนาดาขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% เป็น 4.75% สูงสุดในรอบ 22 ปี ขณะที่ธนาคารกลางออสเตรเลียขึ้นดอกเบี้ย 0.25% เป็น 4.10% สูงสุดในรอบ 11 ปี
เจ้าหน้าที่เฟดหลายคนส่งสัญญาณสนับสนุนเฟดระงับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้
นักลงทุนจับตาดูการประกาศดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในเดือนพฤษภาคมในวันที่ 13 มิถุนายน ก่อนที่เฟดจะประกาศผลการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 14 มิถุนายน ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปและดัชนีราคาผู้บริโภคหลักกำลังชะลอตัวลง แต่ก็ยังสูงกว่าเป้าหมาย 2% ของเฟด
คำแนะนำการอ่านบทความนี้ : บางบทความในเว็บไซต์ ใช้ระบบแปลภาษาอัตโนมัติ คำศัพท์เฉพาะบางคำอาจจะทำให้ไม่เข้าใจ สามารถเปลี่ยนภาษาเว็บไซต์เป็นภาษาอังกฤษ หรือปรับเปลี่ยนภาษาในการใช้งานเว็บไซต์ได้ตามที่ถนัด บทความของเรารองรับการใช้งานได้หลากหลายภาษา หากใช้ระบบแปลภาษาที่เว็บไซต์ยังไม่เข้าใจ สามารถศึกษาเพิ่มเติมโดยคลิกลิ้งค์ที่มาของบทความนี้ตามลิ้งค์ที่อยู่ด้านล่างนี้
Source link