หน้าแรกTHAI STOCKEPG ปี 2555/2566 ยอดขายโต 3% แตะ 1.2 หมื่นลบ. แต่ค่าใช้จ่ายต่างประเทศกดดันกำไร

EPG ปี 2555/2566 ยอดขายโต 3% แตะ 1.2 หมื่นลบ. แต่ค่าใช้จ่ายต่างประเทศกดดันกำไร


นายเฉลียว วิทูรปกรณ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ EPG เปิดเผยว่า ในปีงบประมาณ 2555/2556 (1 เมษายน 2565 – 31 มีนาคม 2566) บริษัทมีรายได้จากการขาย 12,084 ล้านบาท จากปีก่อนที่มีรายได้จากการขาย 11,740 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 344 ล้านบาท หรือ 3% โดยมีอัตรากำไรขั้นต้น 33% และมีกำไรสุทธิ 1,082 ล้านบาท ลดลง 520 ล้านบาท จากปีก่อนโดยมี กำไร. สุทธิ 1,602 ล้านบาท หรือลดลง 32.5%

เป็นผลจากการดำเนินงานของ 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่

ธุรกิจฉนวนกันความร้อน/เย็น ภายใต้แบรนด์ Aeroflex มีรายได้จากการขาย 3,563 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 14% จากปีก่อน เนื่องจากยอดขายในสหรัฐอเมริกาเติบโตต่อเนื่องจากความต้องการผลิตภัณฑ์ฉนวนยางคุณภาพสูง บริษัทสามารถปรับราคาได้ทันทีตามสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป รวมถึงขยายตลาดสู่อุตสาหกรรมฉนวนอุณหภูมิต่ำพิเศษ และระบบท่อลม ซึ่งได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี ยอดขายในเอเชีย เช่น ญี่ปุ่นดีขึ้น ขณะที่ยอดขายในประเทศปรับตัวดีขึ้นตามการลงทุนภาคเอกชน อย่างไรก็ตาม บริษัทได้รับผลกระทบจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนในช่วงครึ่งหลังของปีงบการเงิน

ธุรกิจชิ้นส่วนและอุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์ภายใต้แบรนด์ Aeroklas และ TJM มีรายได้จากการขาย 5,936 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 2% จากปีก่อน จากสถานการณ์การขาดแคลนชิป เนื่องจากปัญหาการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลกเริ่มคลี่คลายลง อุตสาหกรรมยานยนต์ยังคงผลิตต่อไป Aeroklas มุ่งเน้นการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์และอุปกรณ์เสริมน้ำหนักเบาที่เป็นที่ต้องการในอุตสาหกรรมยานยนต์ เนื่องจากมีส่วนช่วยในการประหยัดพลังงาน เป็นผลให้ Aeroklas ได้รับคำสั่งซื้อยานพาหนะใหม่เพิ่มขึ้น และภาวะเศรษฐกิจในยุโรปที่ชะลอตัวลง

สำหรับธุรกิจในออสเตรเลีย ยอดขายชิ้นส่วนอุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการรับรู้รายได้จากการเข้าซื้อกิจการ 4 Way Suspension Products Pty. Ltd ประเทศออสเตรเลีย ธุรกิจในออสเตรเลียได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมรุนแรงในออสเตรเลีย ภาวะเงินเฟ้อ และความล่าช้าในการส่งมอบยานพาหนะไปยังตลาดออสเตรเลีย

ธุรกิจบรรจุภัณฑ์พลาสติกภายใต้ตราสินค้า EPP มีรายได้จากการขาย 2,585 ล้านบาท หรือลดลง 7% จากปีก่อน เนื่องจากการสั่งซื้อบรรจุภัณฑ์อาหารพลาสติกชะลอตัว แต่บรรจุภัณฑ์ถ้วยน้ำดื่มเริ่มดีขึ้น บริษัทยังเน้นการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายโดยเฉพาะประเภทบรรจุภัณฑ์ถ้วยดื่ม บริษัทอยู่ระหว่างการปรับกลยุทธ์และกระบวนการผลิต พร้อมพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้ามากขึ้นในอนาคต

ต้นทุนขายของบริษัทเพิ่มขึ้น 1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นอัตราที่ต่ำกว่าการเพิ่มขึ้นของยอดขาย บริษัทฯ ได้จัดหาวัตถุดิบจากแหล่งผลิตในหลายประเทศเพื่อให้ต้นทุนถัวเฉลี่ยจากราคาวัตถุดิบอยู่ในราคาที่เหมาะสม ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มขึ้น 23% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมาจากค่าขนส่งและค่าเช่าโกดังของธุรกิจฉนวนกันร้อน/เย็น ในประเทศสหรัฐอเมริกา การปรับเพิ่มอัตรากำลังพนักงานตามตลาดแรงงานในสหรัฐอเมริกาและออสเตรเลีย การจ้างพนักงานเพิ่มเพื่อขยายสาขาของ TJM ออสเตรเลีย และค่าโฆษณา กิจกรรมประชาสัมพันธ์และค่าใช้จ่ายในการพัฒนาระบบ IT ในออสเตรเลีย รวมถึงการรับรู้ค่าใช้จ่ายของ 4 Way Suspension Products Pty. Ltd ประเทศออสเตรเลีย เป็นต้น

นอกจากนี้บริษัทยังได้รับส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมและกิจการร่วมค้าจำนวน 243 ล้านบาท จากการปรับตัวดีขึ้นของอุตสาหกรรมยานยนต์


     

คำแนะนำการอ่านบทความนี้ : บางบทความในเว็บไซต์ ใช้ระบบแปลภาษาอัตโนมัติ คำศัพท์เฉพาะบางคำอาจจะทำให้ไม่เข้าใจ สามารถเปลี่ยนภาษาเว็บไซต์เป็นภาษาอังกฤษ หรือปรับเปลี่ยนภาษาในการใช้งานเว็บไซต์ได้ตามที่ถนัด บทความของเรารองรับการใช้งานได้หลากหลายภาษา หากใช้ระบบแปลภาษาที่เว็บไซต์ยังไม่เข้าใจ สามารถศึกษาเพิ่มเติมโดยคลิกลิ้งค์ที่มาของบทความนี้ตามลิ้งค์ที่อยู่ด้านล่างนี้


Source link

RELATED ARTICLES
- Advertisment -
Technical Summary Widget Powered by Investing.com

ANALYSIS TODAY

Translate »