หน้าแรกTHAI STOCKดอลลาร์แข็งค่าขึ้นจาก PMI ที่แข็งแกร่ง | RYT9

ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นจาก PMI ที่แข็งแกร่ง | RYT9


ดอลลาร์อ่อนค่าในการซื้อขายช่วงต้น แต่ดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก โดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ที่แข็งแกร่ง

ณ เวลา 21:03 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก ดัชนีดอลลาร์ซึ่งวัดค่าเงินดอลลาร์เทียบกับตะกร้าสกุลเงินหลัก 6 สกุล เพิ่มขึ้น 0.21% เป็น 102.05 ในขณะที่ดอลลาร์เพิ่มขึ้น 0.17% เป็น 1.095 เมื่อเทียบกับยูโรและแข็งค่าขึ้น 0.09% ถึง 134.35 เยน

S&P Global PMI เผยแพร่ดัชนีภาคการผลิตและบริการเบื้องต้นของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเป็น 53.5 ในเดือนเมษายน สูงสุดในรอบ 11 เดือน จาก 52.3 ในเดือนมีนาคม

ดัชนี PMI อยู่เหนือระดับ 50 บ่งชี้ว่าภาคธุรกิจของสหรัฐกำลังขยายตัว ซึ่งขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3

PMI ได้รับการสนับสนุนจากงานที่ดีดตัวขึ้นและคำสั่งซื้อใหม่ ขณะที่ความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจก็ดีขึ้นเช่นกัน

PMI ภาคการผลิตเบื้องต้นอยู่ที่ 50.4 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน จาก 49.2 ในเดือนมีนาคม

PMI ภาคบริการเบื้องต้นอยู่ที่ 53.7 สูงสุดในรอบ 12 เดือนจาก 52.6 ในเดือนมีนาคม

เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะสามารถแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับนโยบายการเงินในวันนี้เป็นครั้งสุดท้าย ก่อนเข้าสู่ช่วง Blackout ในวันพรุ่งนี้ ขณะที่ Fed จะประชุมนโยบายในวันที่ 2-3 พ.ค. ซึ่งเป็นไปตามกฎของ Fed

กฎระเบียบของเฟดห้ามไม่ให้เจ้าหน้าที่เฟดแสดงความคิดเห็นในที่สาธารณะ หรือให้สัมภาษณ์ในช่วง Blackout Period เกี่ยวกับนโยบายการเงิน โดยเริ่มในวันเสาร์ที่ 2 ก่อนการประชุมนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) และสิ้นสุดในวันพฤหัสบดีหลังการประชุม FOMC

เครื่องมือ FedWatch ของ CME Group แสดงให้เห็นว่านักลงทุน 84.0% กำลังชั่งน้ำหนักการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด 0.25% สู่ช่วง 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 2-3 พฤษภาคม และ 16.0% กำลังชั่งน้ำหนัก คงอัตราดอกเบี้ยที่ 4.75-5.00%

ราฟาเอล บอสติค ประธานเฟดสาขาแอตแลนตากล่าวว่า เขาคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งหนึ่งก่อนที่จะระงับอัตราดอกเบี้ยเพื่อพิจารณาผลกระทบต่อเศรษฐกิจจากนโยบายเข้มงวดของเฟด การเงิน

อย่างไรก็ตาม นายบอสติคกล่าวว่าเฟดจะไม่ลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อยังคงสูง เมื่อเทียบกับเป้าหมายร้อยละ 2 ของเฟด แม้ว่าเจ้าหน้าที่เฟดหลายคนจะเตือนในการประชุมเดือนมี.ค.ว่า สหรัฐฯ อาจเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยในปีนี้

แถลงการณ์ของบอสติคท้าทายความคาดหวังของตลาด ซึ่งมองว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.50% ก่อนสิ้นปี 2566


     

คำแนะนำการอ่านบทความนี้ : บางบทความในเว็บไซต์ ใช้ระบบแปลภาษาอัตโนมัติ คำศัพท์เฉพาะบางคำอาจจะทำให้ไม่เข้าใจ สามารถเปลี่ยนภาษาเว็บไซต์เป็นภาษาอังกฤษ หรือปรับเปลี่ยนภาษาในการใช้งานเว็บไซต์ได้ตามที่ถนัด บทความของเรารองรับการใช้งานได้หลากหลายภาษา หากใช้ระบบแปลภาษาที่เว็บไซต์ยังไม่เข้าใจ สามารถศึกษาเพิ่มเติมโดยคลิกลิ้งค์ที่มาของบทความนี้ตามลิ้งค์ที่อยู่ด้านล่างนี้


Source link

RELATED ARTICLES
- Advertisment -
Technical Summary Widget Powered by Investing.com

ANALYSIS TODAY

Translate »