spot_imgspot_img
spot_img
หน้าแรกTHAI STOCKดาวโจนส์ยังทะยานต่อเนื่อง ล่าสุดดีดตัวกว่า 100 จุด | RYT9

ดาวโจนส์ยังทะยานต่อเนื่อง ล่าสุดดีดตัวกว่า 100 จุด | RYT9


ดัชนีดาวโจนส์พุ่งต่อเนื่อง ล่าสุดปรับตัวขึ้นกว่า 100 จุด เนื่องจากนักลงทุนจับตาตัวเลขเงินเฟ้อและรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เพื่อบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด

ณ เวลา 23.50 น. ตามเวลาไทย ค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 33,740.11 จุด บวก 153.59 จุด หรือ 0.46%

หุ้นของบริษัทที่เกี่ยวข้องกับ cryptocurrency กำลังเพิ่มขึ้นในวันนี้ Bitcoin พุ่งขึ้นเหนือ $30,000 เป็นครั้งแรกในรอบ 10 เดือน

ราคาหุ้นโบอิ้ง รวมถึงกลุ่มสายการบินวันนี้พุ่งขึ้น หลังจากเปิดเผยว่า บริษัทสามารถส่งมอบเครื่องบินได้จำนวนมากในเดือนมีนาคม

กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่ขับเคลื่อนโดยการใช้จ่ายของผู้บริโภค พรุ่งนี้มีนาคม

นักวิเคราะห์คาดว่า CPI จะบ่งชี้ว่าอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ยังไม่ถึงจุดสูงสุด

นักวิเคราะห์ที่สำรวจคาดว่า CPI พาดหัวซึ่งรวมถึงอาหารและพลังงานจะเพิ่มขึ้น 5.2% ในเดือนมีนาคมปีต่อปี ชะลอตัวลงจาก 6.0% ในเดือนกุมภาพันธ์

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์คาดว่าดัชนี CPI หลัก (core CPI) ซึ่งไม่รวมอาหารและพลังงาน จะดีดตัวขึ้น 5.6% ในเดือนมีนาคมปีต่อปี ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 5.5% ในเดือนกุมภาพันธ์

หาก CPI หลักดีดตัวขึ้นเป็น 5.6% ในเดือนมีนาคมตามที่คาดการณ์ไว้ จะเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2565 ที่ CPI หลักเพิ่มขึ้นมากกว่าเดือนก่อนหน้า และเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2564 ที่ CPI หลักดีดตัวขึ้นมากกว่า CPI ทั่วไป

นักลงทุนยังจับตารายงานการประชุมเฟดในวันที่ 21-22 มี.ค. ที่จะประกาศในวันพรุ่งนี้ด้วย เฟดมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 4.75-5.00% ในการประชุม พร้อมกับส่งสัญญาณว่าวัฏจักรของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยกำลังจะสิ้นสุดลง

ในการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบายของพวกเขา (Dot Plot) เจ้าหน้าที่เฟดคาดว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยสูงถึง 5.1% ในปีนี้ ซึ่งบ่งชี้ว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกเพียงครั้งเดียวในปีนี้

บริษัทจดทะเบียนในสหรัฐจะเริ่มรายงานผลประกอบการในสัปดาห์นี้ ธนาคารขนาดใหญ่รวมถึง JP Morgan Chase, Citigroup และ Wells Fargo จะรายงานผลประกอบการไตรมาสแรกปี 2566 ในวันศุกร์

ข้อมูลจาก Refinitiv IBES บ่งชี้ว่านักวิเคราะห์คาดว่าดัชนี S&P 500 จะรายงานกำไรลดลง 5.2% ในไตรมาสแรก หลังจากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะเพิ่มขึ้น 1.4% ในไตรมาสนี้


     

คำแนะนำการอ่านบทความนี้ : บางบทความในเว็บไซต์ ใช้ระบบแปลภาษาอัตโนมัติ คำศัพท์เฉพาะบางคำอาจจะทำให้ไม่เข้าใจ สามารถเปลี่ยนภาษาเว็บไซต์เป็นภาษาอังกฤษ หรือปรับเปลี่ยนภาษาในการใช้งานเว็บไซต์ได้ตามที่ถนัด บทความของเรารองรับการใช้งานได้หลากหลายภาษา หากใช้ระบบแปลภาษาที่เว็บไซต์ยังไม่เข้าใจ สามารถศึกษาเพิ่มเติมโดยคลิกลิ้งค์ที่มาของบทความนี้ตามลิ้งค์ที่อยู่ด้านล่างนี้


Source link

spot_imgspot_img
RELATED ARTICLES
- Advertisment -
Technical Summary Widget Powered by Investing.com

ANALYSIS TODAY

Translate »