สำนักอุตุนิยมวิทยาของจีนระบุว่า อุณหภูมิใน 19 เมืองในจังหวัดทางตะวันออกของเจ้อเจียงและฝูเจี้ยน คาดว่าจะเกิน 40 องศาเซลเซียส (104 องศาฟาเรนไฮต์) ใน 24 ชั่วโมงข้างหน้า
เมืองและมณฑลอีก 208 แห่งทั่วประเทศจีนอยู่ภายใต้การแจ้งเตือนระดับสีส้ม ซึ่งเป็นการเตือนความร้อนที่สูงเป็นอันดับสองที่ระบุอุณหภูมิที่สูงกว่า 35 องศาเซลเซียส (95 องศาฟาเรนไฮต์)
คำเตือนดังกล่าวครอบคลุมพื้นที่ทางตอนใต้และตะวันออกของจีน รวมถึงเจียงซี หูหนาน กวางตุ้ง กวางสี และบางส่วนของมณฑลอานฮุยและเหอหนาน
คลื่นความร้อนเกิดขึ้นพร้อมกับ “ความร้อนสูง” ในวันเสาร์ ซึ่งเป็นวันที่อากาศร้อนที่สุดของปี ตามปฏิทินจันทรคติของจีน
ประเทศจีนได้ต่อสู้กับอุณหภูมิที่สูงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ย 22.1 องศาเซลเซียส (เกือบ 72 องศาฟาเรนไฮต์) ซึ่งสูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2504 ตามรายงานของ National Climate Center ของจีน
ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา สถานีตรวจอากาศแห่งชาติอย่างน้อย 71 แห่งทั่วประเทศจีนได้บันทึกอุณหภูมิสูงสุดเป็นประวัติการณ์ สามเมืองในมณฑลเหอเป่ยตอนกลางและอีกหนึ่งเมืองในมณฑลยูนนานทางตะวันตกเฉียงใต้มีอุณหภูมิสูงถึง 44 องศาเซลเซียส (111 องศาฟาเรนไฮต์)
หอสังเกตการณ์อุตุนิยมวิทยากลางของจีนได้แนะนำให้ประชาชนหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง ลดเวลาทำงาน และใช้มาตรการป้องกันลมแดดในช่วงที่อากาศร้อน
เมื่อต้นปีนี้ รัฐบาลจีนได้ออกเอกสารนโยบายฉบับใหม่เพื่อปรับปรุงการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งระบุว่าไม่เพียงแต่สร้างความท้าทายในระยะยาว แต่ยังทำให้ประเทศเสี่ยงต่อเหตุการณ์ “ฉับพลันและรุนแรง” เช่น คลื่นความร้อน ภัยแล้งและน้ำท่วม
“การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้ส่งผลกระทบร้ายแรงต่อระบบนิเวศตามธรรมชาติของจีนแล้ว และยังคงแพร่กระจายและเจาะเข้าไปในเศรษฐกิจและสังคมอย่างต่อเนื่อง” รัฐบาลกล่าวในกลยุทธ์การปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศระดับชาติ
โดยให้คำมั่นว่าจะทำให้จีนเป็น “สังคมที่มีความยืดหยุ่นต่อสภาพอากาศ” ภายในปี 2578 โดยการสร้างระบบทั่วประเทศเพื่อติดตามและประเมินความเสี่ยงด้านสภาพอากาศ และโดยการเพิ่มขีดความสามารถในการเตือนภัยล่วงหน้า
Nectar Gan ของ CNN สนับสนุนการรายงาน
คำแนะนำการอ่านบทความนี้ : บางบทความในเว็บไซต์ ใช้ระบบแปลภาษาอัตโนมัติ คำศัพท์เฉพาะบางคำอาจจะทำให้ไม่เข้าใจ สามารถเปลี่ยนภาษาเว็บไซต์เป็นภาษาอังกฤษ หรือปรับเปลี่ยนภาษาในการใช้งานเว็บไซต์ได้ตามที่ถนัด บทความของเรารองรับการใช้งานได้หลากหลายภาษา หากใช้ระบบแปลภาษาที่เว็บไซต์ยังไม่เข้าใจ สามารถศึกษาเพิ่มเติมโดยคลิกลิ้งค์ที่มาของบทความนี้ตามลิ้งค์ที่อยู่ด้านล่างนี้
ที่มาบทความนี้