หน้าแรกTHAI STOCKRATCH อู้ฟู่ครึ่งปีหลัง รับรู้รายได้ COD 2 โรงไฟฟ้าใหม่ในอินโดนีเซีย-ระยอง

RATCH อู้ฟู่ครึ่งปีหลัง รับรู้รายได้ COD 2 โรงไฟฟ้าใหม่ในอินโดนีเซีย-ระยอง


RATCH เดินหน้าแผนการดำเนินงานครึ่งหลังปี’65 รับรู้รายได้โครงการโรงไฟฟ้าที่เริ่มทยอยเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ (COD)2 แห่งในอินโดนีเซีย-ระยอง รุกเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้า พร้อมเดินหน้าแผนการลงทุนในธุรกิจ Non Power Business ระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน ที่มุ่งเน้นการสร้างมูลค่าในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

วันที่ 18 กรกฎาคม 2565 นางสาวชูศรี เกียรติขจรกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ RATCH เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานในครึ่งปีหลังของปี 2565 บริษัทคาดว่ารายได้จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากการรับรู้โครงการโรงไฟฟ้าที่เริ่มทยอยเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ (COD) ประกอบด้วย โรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม Riau ตั้งอยู่ที่จังหวัด Riau เกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย โดยบริษัทได้ถือหุ้นทางอ้อมผ่านบริษัท อาร์เอช อินเตอร์เนชั่นแนล (สิงคโปร์) คอร์ปอเรชั่น จำกัด (RHIS) 49% มีกำลังการผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้น 145.15 เมกะวัตต์ ซึ่งเริ่ม COD เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ที่ผ่านมา

ชูศรี เกียรติขจรกุล

และโรงไฟฟ้าเน็กส์ซิฟ ราช เอ็นเนอร์จี ระยอง โดยได้ถือหุ้นทางอ้อมผ่าน Nexif Singapore 49% กำลังการผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้น 45.08 เมกะวัตต์ ซึ่งเริ่ม COD เมื่อเดือนเมษายน 2565 ที่ผ่านมา

พร้อมกันนี้ บริษัทยังคงเป้าหมายการเพิ่มกำลังการผลิตในปีนี้ไม่น้อยกว่า 700 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นโครงการโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงหลักประมาณ 450 เมกะวัตต์ และอีกประมาณ 250 เมกะวัตต์ จะเป็นโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน ซึ่งจะส่งผลให้สิ้นปีนี้บริษัทมีกำลังการผลิตติดตั้งรวมไม่น้อยกว่า 9,919.28 เมกะวัตต์ จากปัจจุบันอยู่ที่ 9,219.28 เมกะวัตต์

ทั้งนี้ บริษัทเดินหน้ามองหาโอกาสทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ผ่านการลงทุนในด้านต่าง ๆ ประกอบด้วย 1.เดินหน้าสนองต่อนโยบายภาครัฐในการเพิ่มการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด ภายใต้แผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย (Power Development Plan: PDP) พ.ศ. 2561-2580

ซึ่งบริษัทมีแผนเพิ่มสัดส่วนกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนให้มากขึ้นจากปัจจุบันที่ 15% ของกำลังการผลิตรวมของบริษัท โดยกำหนดเป้าหมายเพิ่มกำลังการผลิตจากพลังงานทดแทนเป็น 2,500 เมกะวัตต์ในปี 2568 และ 4,000 เมกะวัตต์ในปี 2578 หรือคิดเป็น 25% และ 40% ของกำลังการผลิตรวมของบริษัทตามลำดับ

2.มุ่งสู่ธุรกิจคาร์บอนต่ำ ด้วยเทคโนโลยีการกักเก็บคาร์บอน, ระบบกักเก็บพลังงานและการซื้อขายคาร์บอน ตามทิศทางพลังงานสีเขียวโลกและเพื่อเป้าหมาย Net Zero Emission

และ 3.การเปลี่ยนผ่านโครงสร้างการผลิตไฟฟ้าสู่รูปแบบการผลิตเพื่อใช้เอง โดยบริษัทมีเป้าหมายขยายพอร์ตการลงทุนโรงไฟฟ้า IPS, ลงทุนด้านนวัตกรรมพลังงานไฟฟ้า, ลงทุนด้าน Smart Grid และ/หรือ Micro Grid และระบบแพลตฟอร์มการซื้อขายไฟฟ้า

นอกจากนี้ บริษัทยังเดินหน้าแผนลงทุนในธุรกิจ Non Power Business ประกอบไปด้วยโครงการระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน ธุรกิจบริการสุขภาพ และธุรกิจอื่นหรือธุรกิจคาร์บอนต่ำที่มีแนวโน้มการเติบโตสูงในระยะยาว เพื่อสร้างรายได้ที่ยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในโรงพยาบาล พริ้นซ์ สกลนคร ซึ่งได้ร่วมกับบริษัท พริ้นซิเพิล แคปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ PRINC ซึ่ง RATCH ลงทุนโดยตรงในสัดส่วน 25% และลงทุนผ่าน PRINC อีก 10% ซึ่งปัจจุบันได้เริ่มดำเนินการก่อสร้างแล้ว คาดว่าจะเปิดให้บริการและเริ่มรับรู้รายได้ในเดือนกุมภาพันธ์ 2566

นอกจากนี้ ยังมีโครงการที่ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง ประกอบด้วย โครงการรถไฟฟ้า MRT สายสีชมพูและสายสีเหลือง โดยคาดว่าทั้งสองโครงการจะเริ่มเปิดให้บริการในไตรมาส 1 ปี 2566 เป็นต้นไป

และโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหรือมอเตอร์เวย์ หมายเลข M6 และ M81 คาดว่าจะเริ่ม COD ได้ในปี 2567 นับเป็นการปฏิบัติตามแผนยุทธศาสตร์เพื่อขยายการเติบโตสู่ผู้นำพลังงานในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ตามที่ได้ตั้งเป้าหมายไว้

อ่านข่าวต้นฉบับ: RATCH อู้ฟู่ครึ่งปีหลัง รับรู้รายได้ COD 2 โรงไฟฟ้าใหม่ในอินโดนีเซีย-ระยอง

     

คำแนะนำการอ่านบทความนี้ : บางบทความในเว็บไซต์ ใช้ระบบแปลภาษาอัตโนมัติ คำศัพท์เฉพาะบางคำอาจจะทำให้ไม่เข้าใจ สามารถเปลี่ยนภาษาเว็บไซต์เป็นภาษาอังกฤษ หรือปรับเปลี่ยนภาษาในการใช้งานเว็บไซต์ได้ตามที่ถนัด บทความของเรารองรับการใช้งานได้หลากหลายภาษา หากใช้ระบบแปลภาษาที่เว็บไซต์ยังไม่เข้าใจ สามารถศึกษาเพิ่มเติมโดยคลิกลิ้งค์ที่มาของบทความนี้ตามลิ้งค์ที่อยู่ด้านล่างนี้


Source link : ต้นฉบับเนื้อหาข่าวนี้

RELATED ARTICLES
- Advertisment -
Technical Summary Widget Powered by Investing.com

ANALYSIS TODAY

Translate »