U.Today – ในการสนทนาล่าสุดเกี่ยวกับอุปทานหมุนเวียนของ XRP, CTO David Schwartz ได้เปรียบเทียบและเหรียญที่เป็นของผู้สร้างลึกลับ Satoshi Nakamoto คำพูดของเขาเน้นย้ำถึงความซับซ้อนในการกำหนดสิ่งที่ถือเป็น “อุปทานหมุนเวียน” ในภูมิทัศน์ของสกุลเงินดิจิทัล
ผู้ใช้ X ได้ดึงความสนใจไปที่ความไม่เท่าเทียมกันในอุปทานหมุนเวียนของ XRP ที่รายงานโดยแพลตฟอร์มจัดอันดับ crypto CoinMarketCap และ XRP explorer ยอดนิยม XRPScan
CoinMarketCap รายงานอุปทานหมุนเวียนในปัจจุบันของ XRP อยู่ที่ 57.64 พันล้าน XRP ในขณะที่ตามภาพหน้าจอที่แชร์โดยผู้ใช้ X XRPScan รายงาน 62.23 พันล้าน XRP
เมื่อพูดถึงการเก็งกำไรนี้ Schwartz อธิบายว่า “วิธีที่คุณวัดปริมาณอุปทานหมุนเวียนนั้นขึ้นอยู่กับสิ่งที่คุณพิจารณาว่ามีการหมุนเวียนและสิ่งที่คุณไม่คิดว่าจะหมุนเวียน” เขากล่าวต่อว่า “สำหรับการเปรียบเทียบ Bitcoin Bitcoins ของ Satoshi มีการหมุนเวียนอยู่หรือไม่ คนที่สมเหตุสมผลอาจไม่เห็นด้วยว่า Bitcoins ใดที่เป็นของ Satoshi”
Satoshi เป็นเจ้าของ Bitcoin ในสปอตไลท์
การเปรียบเทียบที่ทำโดย Ripple CTO มีความเกี่ยวข้องอย่างยิ่ง เนื่องจากเชื่อว่า Satoshi Nakamoto เป็นเจ้าของมากกว่า 1 ล้าน BTC ซึ่งยังคงไม่มีใครแตะต้องเลยนับตั้งแต่วันแรก ๆ ของ Bitcoin แม้ว่าเหรียญเหล่านี้จะมีอยู่ในทางเทคนิคในบล็อกเชน แต่หลายคนในชุมชน crypto เชื่อว่าเหรียญเหล่านี้ไม่สามารถหมุนเวียนได้เนื่องจากไม่มีการใช้งาน
จากข้อมูลของ CoinMarketCap อุปทานทั้งหมดและการหมุนเวียนของ Bitcoin ในปัจจุบันอยู่ที่ 19.81 ล้าน BTC โดยมีอุปทานสูงสุด 21 ล้าน BTC
การถือครอง XRP ของ Ripple แบ่งออกเป็นสองประเภท: XRP ที่มีอยู่ในกระเป๋าเงินของตนในปัจจุบัน และ XRP อยู่ภายใต้การล็อคเอสโครว์ในบัญชีแยกประเภทที่จะเปิดตัวทุกเดือนในอีก 42 เดือนข้างหน้า
สำหรับประเภทหลังนี้ Ripple ไม่สามารถเข้าถึง XRP นี้จนกว่าคนกลางจะเผยแพร่ให้กับพวกเขาทุกเดือน ทุกเดือน XRP ที่เหลือจะถูกส่งคืนไปยังบัญชีเอสโครว์
บทความนี้เผยแพร่ครั้งแรกบน U.Today
คำแนะนำการอ่านบทความนี้ : บางบทความในเว็บไซต์ ใช้ระบบแปลภาษาอัตโนมัติ คำศัพท์เฉพาะบางคำอาจจะทำให้ไม่เข้าใจ สามารถเปลี่ยนภาษาเว็บไซต์เป็นภาษาอังกฤษ หรือปรับเปลี่ยนภาษาในการใช้งานเว็บไซต์ได้ตามที่ถนัด บทความของเรารองรับการใช้งานได้หลากหลายภาษา หากใช้ระบบแปลภาษาที่เว็บไซต์ยังไม่เข้าใจ สามารถศึกษาเพิ่มเติมโดยคลิกลิ้งค์ที่มาของบทความนี้ตามลิ้งค์ที่อยู่ด้านล่างนี้
Source link