(รอยเตอร์) – พาโลอัลโตเน็ตเวิร์กส์ (NASDAQ:) เอาชนะความคาดหวังของวอลล์สตรีทสำหรับรายรับและกำไรไตรมาสแรกในวันพุธ เนื่องจากการใช้จ่ายที่ดีสำหรับบริการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ท่ามกลางภัยคุกคามทางดิจิทัลที่เพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม หุ้นของบริษัทซานตาคลารา ซึ่งตั้งอยู่ในแคลิฟอร์เนีย ลดลงมากกว่า 5% จากการซื้อขายระยะยาว พาโลอัลโตคาดการณ์ไตรมาสที่สองรวมถึงรายรับต่อปีส่วนใหญ่สอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
นอกจากนี้บริษัทยังได้ประกาศการแยกหุ้นแบบสองต่อหนึ่งสำหรับหุ้นสามัญที่จำหน่ายได้แล้ว การซื้อขายแบบแยกส่วนคาดว่าจะเริ่มในวันที่ 16 ธันวาคม
พาโลอัลโตเพิ่มแนวโน้มรายรับในปีงบประมาณ 2568 เป็นระหว่าง 9.12 พันล้านดอลลาร์ถึง 9.17 พันล้านดอลลาร์ ในขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะมีมูลค่า 9.13 พันล้านดอลลาร์ ตามข้อมูลที่รวบรวมโดย LSEG
อาชญากรรมทางไซเบอร์และการแฮ็กที่เพิ่มขึ้นได้กระตุ้นให้บริษัทต่างๆ ลงทุนอย่างมากในเรื่องความปลอดภัยทางไซเบอร์ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อบริษัทขนาดใหญ่ที่ให้บริการด้านความปลอดภัยที่หลากหลาย เช่น Palo Alto
บริษัทพยายามให้ลูกค้านำแนวทาง “การทำให้เป็นแพลตฟอร์ม” ใหม่มาใช้ในการรักษาความปลอดภัย โดยการรวมเครื่องมือแต่ละรายการไว้ในแพลตฟอร์มเดียว และทำให้การจัดการง่ายขึ้น
“ความคืบหน้าในการวางแพลตฟอร์มของเรายังคงดำเนินต่อไปในไตรมาสที่ 1 ซึ่งผลักดันผลประกอบการทางการเงินที่แข็งแกร่ง” Dipak Golechha หัวหน้าฝ่ายการเงินของ Palo Alto กล่าว
พาโล อัลโต รายงานรายรับ 2.14 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสแรก ซึ่งสูงกว่าประมาณการที่ 2.12 พันล้านดอลลาร์
เมื่อปรับพื้นฐานแล้ว บริษัทมีรายได้ 1.56 ดอลลาร์ต่อหุ้น เทียบกับประมาณการที่ 1.48 ดอลลาร์ต่อหุ้น
โดยคาดการณ์รายรับในไตรมาสสองจะอยู่ระหว่าง 2.22 พันล้านดอลลาร์ถึง 2.25 พันล้านดอลลาร์ เทียบกับประมาณการที่ 2.23 พันล้านดอลลาร์
บริษัทยังได้เพิ่มการคาดการณ์สำหรับกำไรสุทธิต่อหุ้นที่ปรับปรุงแล้วเป็นช่วง 6.26 ดอลลาร์ถึง 6.39 ดอลลาร์ต่อหุ้น จาก 6.18 ดอลลาร์เป็น 6.31 ดอลลาร์ต่อหุ้นตามที่คาดไว้ก่อนหน้านี้
คำแนะนำการอ่านบทความนี้ : บางบทความในเว็บไซต์ ใช้ระบบแปลภาษาอัตโนมัติ คำศัพท์เฉพาะบางคำอาจจะทำให้ไม่เข้าใจ สามารถเปลี่ยนภาษาเว็บไซต์เป็นภาษาอังกฤษ หรือปรับเปลี่ยนภาษาในการใช้งานเว็บไซต์ได้ตามที่ถนัด บทความของเรารองรับการใช้งานได้หลากหลายภาษา หากใช้ระบบแปลภาษาที่เว็บไซต์ยังไม่เข้าใจ สามารถศึกษาเพิ่มเติมโดยคลิกลิ้งค์ที่มาของบทความนี้ตามลิ้งค์ที่อยู่ด้านล่างนี้
ที่มาบทความนี้