โดย ลูซี เครย์เมอร์ และ เรนจู โฮเซ่
เวลลิงตัน (รอยเตอร์) – ธนาคารกลางนิวซีแลนด์วาดภาพเศรษฐกิจที่ย่ำแย่เมื่อวันอังคาร โดยอ้างถึงการว่างงานที่เพิ่มขึ้นและแผนการลงทุนทางธุรกิจที่ล่าช้าเนื่องจากความยากลำบากทางการเงิน
รายงานเสถียรภาพทางการเงินรายครึ่งปีของธนาคารกลางนิวซีแลนด์ (RBNZ) ระบุว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศที่อ่อนแอมีความเด่นชัดมากขึ้น และการรวมกันของการเติบโตทั่วโลกที่ชะลอตัวและอัตราดอกเบี้ยที่สูงทำให้อุปสงค์ลดลง
“การว่างงานที่เพิ่มขึ้นกำลังเริ่มสร้างปัญหาทางการเงินเฉียบพลันให้กับบางครัวเรือน” รายงานระบุ
โดยเสริมว่าธุรกิจต่างๆ กำลังประสบกับความสามารถในการทำกำไรที่ลดลงและความต้องการที่อ่อนแอ และแรงกดดันด้านต้นทุนที่ยืดเยื้อทำให้สภาพแวดล้อมทางการค้ายากขึ้นสำหรับบริษัทต่างๆ
ในช่วงสองปีที่ผ่านมา การเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศมีความผันผวนและบางครั้งก็เข้าสู่แดนลบ
RBNZ คาดว่าเศรษฐกิจจะหดตัวในไตรมาสที่สาม เนื่องจากมีการปรับขึ้นอัตราเงินสดเพื่อลดอุปสงค์และลดอัตราเงินเฟ้อ การว่างงานกำลังเพิ่มขึ้นและความเชื่อมั่นยังคงสงบลง
ตั้งแต่เดือนสิงหาคม ธนาคารกลางได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินสดอย่างเป็นทางการลง 75 จุดพื้นฐาน เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อผ่อนคลายลง
Adrian Orr ผู้ว่าการ RBNZ กล่าวในงานแถลงข่าวว่าเศรษฐกิจที่แท้จริงกำลังล่าช้าจากการลดอัตราดอกเบี้ย และการผ่านพ้นความล่าช้านั้นเป็นเรื่องที่น่ากังวล
“คุณคงไม่อยากให้เกิดความประหลาดใจหรือความตื่นตระหนกกับข้อเสียในช่วงเวลานั้น” ออร์กล่าว
ในขณะที่เศรษฐกิจกำลังดิ้นรน ธนาคารกลางกล่าวว่าระบบการเงินของประเทศยังคงมีความยืดหยุ่น และความเสี่ยงต่อระบบยังคงมีอยู่
RBNZ กล่าวว่าธนาคารต่างๆ คาดการณ์ว่าสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แม้ว่าจะยังต่ำกว่าระดับที่เห็นในภาวะถดถอยครั้งก่อนๆ
“ธนาคารในนิวซีแลนด์อยู่ในสถานะที่ดีที่จะให้การสนับสนุนภาคครัวเรือนและธุรกิจต่างๆ ต่อไป รวมถึงการจัดการการผิดนัดชำระหนี้ที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ” คริสเตียน ฮอว์คสบี รองผู้ว่าการกล่าว
คำแนะนำการอ่านบทความนี้ : บางบทความในเว็บไซต์ ใช้ระบบแปลภาษาอัตโนมัติ คำศัพท์เฉพาะบางคำอาจจะทำให้ไม่เข้าใจ สามารถเปลี่ยนภาษาเว็บไซต์เป็นภาษาอังกฤษ หรือปรับเปลี่ยนภาษาในการใช้งานเว็บไซต์ได้ตามที่ถนัด บทความของเรารองรับการใช้งานได้หลากหลายภาษา หากใช้ระบบแปลภาษาที่เว็บไซต์ยังไม่เข้าใจ สามารถศึกษาเพิ่มเติมโดยคลิกลิ้งค์ที่มาของบทความนี้ตามลิ้งค์ที่อยู่ด้านล่างนี้
ที่มาบทความนี้