ราคาทะลุแนวรับได้ไม่สำเร็จและกลับลงมายังโซนการรวมตัวครั้งก่อนในระดับ 2,300 ดอลลาร์ถึง 2,400 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จากนั้นราคากลับตัวอย่างรุนแรงและมีแนวโน้มจะเกิดแนวรับที่ 29 ดอลลาร์
โลหะมีค่าจะต้องทำงานผ่านความเสียหายทางเทคนิคนี้เสียก่อนจึงจะสามารถกลับมาเคลื่อนไหวในแนวโน้มขาขึ้นอีกครั้งได้
เป็นเวลาหลายปีแล้วที่เราได้เขียนเกี่ยวกับความสำคัญของการที่ทองคำทำผลงานได้ดีกว่าตลาดหุ้นและพอร์ตการลงทุนแบบปกติ 60/40
การพัฒนาในระดับมหภาคกำลังใกล้เข้ามา ซึ่งหากเกิดขึ้นจริง ก็จะส่งผลดีอย่างยิ่งต่อโลหะมีค่าทั้งในเชิงมูลค่าและมูลค่าที่แท้จริง
เส้นอัตราผลตอบแทนมีการกลับทิศมานานกว่าสองปีแล้ว
แม้ว่านี่จะเป็นสัญญาณเตือน แต่การเตือนที่แท้จริงถึงผลกระทบเชิงลบที่ใกล้จะเกิดขึ้นคือเมื่อกราฟค่อยๆ ชันขึ้นเป็นบวก ซึ่งถือเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่แทบจะไม่มีใครทัดเทียม
การชันขึ้นถือเป็นผลดีอย่างเหลือเชื่อเมื่อทองคำอยู่ในตลาดกระทิงระยะยาวหรือแนวโน้มขาขึ้นในระยะยาว
เราวางแผนผลตอบแทนสองรายการ (และ และ 2s) ทองคำเทียบกับตลาดหุ้น และทองคำ
การชันของราคาในปี 2001, 2007 และ 2019 ส่งผลดีอย่างมากต่อทองคำและทองคำเมื่อเทียบกับตลาดหุ้น ทองคำยังคงทำผลงานได้ดีในช่วงขาลงระยะยาวเมื่อกราฟชันขึ้นในปี 1984, 1990 และ 1995
เส้นอัตราผลตอบแทนน่าจะยังคงชันขึ้นต่อไป ภาวะเศรษฐกิจถดถอยจะเกิดขึ้น และเฟดจะเริ่มรอบการผ่อนคลายนโยบายการเงินรอบใหม่
ในสถานการณ์เช่นนี้ ทองคำน่าจะทำผลงานได้ดีกว่าตลาดหุ้นอย่างแน่นอน โดยน่าจะไปถึงเป้าหมายขาขึ้นที่วัดได้จากการทะลุรูปแบบถ้วยและหูจับที่ 3,000 ดอลลาร์
ระดับความลึกและระยะเวลาของภาวะขาลงที่กำลังจะมาถึงจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อศักยภาพในการเติบโตของโลหะมีค่าในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ยิ่งภาวะขาลงรุนแรงและยาวนานขึ้นเท่าใด ศักยภาพในการเติบโตก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น
ไม่ว่าในกรณีใด แนวโน้มในช่วง 12 เดือนข้างหน้าค่อนข้างเป็นไปในเชิงบวก
ฉันยังคงให้ความสำคัญกับหุ้นทองคำและเงินที่ผสมผสานคุณภาพพื้นฐานและศักยภาพในการเติบโตได้ดีที่สุด
คำแนะนำการอ่านบทความนี้ : บางบทความในเว็บไซต์ ใช้ระบบแปลภาษาอัตโนมัติ คำศัพท์เฉพาะบางคำอาจจะทำให้ไม่เข้าใจ สามารถเปลี่ยนภาษาเว็บไซต์เป็นภาษาอังกฤษ หรือปรับเปลี่ยนภาษาในการใช้งานเว็บไซต์ได้ตามที่ถนัด บทความของเรารองรับการใช้งานได้หลากหลายภาษา หากใช้ระบบแปลภาษาที่เว็บไซต์ยังไม่เข้าใจ สามารถศึกษาเพิ่มเติมโดยคลิกลิ้งค์ที่มาของบทความนี้ตามลิ้งค์ที่อยู่ด้านล่างนี้
ที่มาบทความนี้