ตลาดพันธบัตรสหรัฐกลับเส้นอัตราผลตอบแทนในวันนี้ โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นดีดกลับเหนือพันธบัตรระยะยาว ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงแนวโน้มที่เศรษฐกิจจะถดถอย
อัตราผลตอบแทนของกระทรวงการคลังอายุ 6 เดือนอยู่ใกล้ระดับ 5% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนของกระทรวงการคลังอายุ 2 ปี ซึ่งอ่อนไหวต่อนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ อยู่ใกล้ระดับ 4% และสูงกว่าอัตราผลตอบแทนของกระทรวงการคลัง สหรัฐอเมริกาอายุ 10 ปีและ 30 ปี
ณ เวลา 20:55 น. ตามเวลาท้องถิ่น อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 6 เดือนอยู่ที่ 4.929% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 2 ปีอยู่ที่ 3.964% และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีอยู่ที่ 3.374% อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปีอยู่ที่ 3.592%
ในอดีตเส้นอัตราผลตอบแทนกลับหัวมักเกิดจากการที่นักลงทุนเทขายพันธบัตรระยะสั้น และซื้อพันธบัตรระยะยาว ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจระยะสั้น นักลงทุนกังวลว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะได้รับผลกระทบจากการที่เฟดเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อ
ตลาดตราสารหนี้สหรัฐเปิดครึ่งวันในวันนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐปิดทำการในวันศุกร์ประเสริฐ
นักลงทุนให้น้ำหนักกับความคาดหวังที่ว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนพ.ค. หลังเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันนี้
เครื่องมือ FedWatch ล่าสุดของ CME Group แสดงให้เห็นว่านักลงทุน 70.7% กำลังชั่งน้ำหนักกับการที่เฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% เป็นระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 2-3 พฤษภาคม และ 29.3% กำลังชั่งน้ำหนักเฟด จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 4.75-5.00%
นักลงทุนมองว่าตัวเลขการจ้างงานในวันนี้สอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ขณะที่อัตราการว่างงานลดลง บ่งชี้ภาวะตึงตัวในตลาดแรงงานสหรัฐฯ ซึ่งจะเป็นปัจจัยสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด
จากข้อมูลของกระทรวงแรงงานสหรัฐ การจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 236,000 รายในเดือนมีนาคม ซึ่งเป็นไปตามที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 238,000 ตำแหน่ง
อัตราการว่างงานลดลงเหลือ 3.5% ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะทรงตัวที่ 3.6%
นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐได้ปรับตัวเลขการจ้างงานในเดือนก.พ. ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 326,000 ตำแหน่ง จากที่เคยรายงานเพิ่มขึ้น 311,000 ตำแหน่ง
นักลงทุนจับตาตัวเลขเงินเฟ้อ รายงานการประชุมเฟดจะออกในสัปดาห์หน้า หลังตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำวันนี้ ระบุว่า เฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนพ.ค.
สหรัฐฯ จะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนมีนาคมในวันพุธที่ 12 เมษายน พร้อมกับรายงานการประชุมนโยบายการเงินของเฟดซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 21-22 มีนาคม
คำแนะนำการอ่านบทความนี้ : บางบทความในเว็บไซต์ ใช้ระบบแปลภาษาอัตโนมัติ คำศัพท์เฉพาะบางคำอาจจะทำให้ไม่เข้าใจ สามารถเปลี่ยนภาษาเว็บไซต์เป็นภาษาอังกฤษ หรือปรับเปลี่ยนภาษาในการใช้งานเว็บไซต์ได้ตามที่ถนัด บทความของเรารองรับการใช้งานได้หลากหลายภาษา หากใช้ระบบแปลภาษาที่เว็บไซต์ยังไม่เข้าใจ สามารถศึกษาเพิ่มเติมโดยคลิกลิ้งค์ที่มาของบทความนี้ตามลิ้งค์ที่อยู่ด้านล่างนี้
Source link