นาย.สรพล วีระเมธิกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ หัวหน้าทีมกลยุทธ์การลงทุน หลักทรัพย์กสิกรไทย กล่าวว่าตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดว่าจะผันผวนในแนวรับ 1,360 จุด และแนวต้าน 1,380 จุด โดยมี 2 ประเด็นหลักที่ต้องติดตาม ได้แก่ แนวโน้มกำไรต่อหุ้น (EPS) ของหุ้นไทย ตลาด. หลังจาก 2 เดือนหลังปี 2567 EPS ติดลบประมาณ 3% ขณะที่การขยายตัวของเศรษฐกิจไทย (GDP) มีโอกาสปรับประมาณการลดลง ส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยยังขาดโมเมนตัมเชิงบวก
สิ่งที่ต้องติดตามคือนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่ทีมเศรษฐกิจจีนจะมีในการประชุมใหญ่สามัญมากน้อยเพียงใด ขณะที่ค่าเงินบาทอ่อนค่าลง ยังเป็นปัจจัยกดดันการไหลของเงินทุนต่างประเทศอีกด้วย
*ประเด็นการพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (1 มีนาคม) ดัชนี DJIA ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กปิดที่ 39,087.38 จุด เพิ่มขึ้น 90.99 จุด หรือ +0.23% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,137.08 จุด เพิ่มขึ้น 40.81 จุด หรือ +0.80% และ ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 16,274.94 จุด เพิ่มขึ้น 183.02 จุด คะแนนหรือ +1.14%
- วันนี้ตลาดหุ้นเอเชียเปิดทำการ ดัชนีฮั่งเส็ง ตลาดหุ้นฮ่องกง เปิดเช้าที่ 16,629.55 จุด เพิ่มขึ้น 40.11 จุด หรือ +0.24% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิต ตลาดหุ้นจีน เปิดเช้าที่ 3,026.61 จุด ลดลง 0.41 จุด หรือ -0.01% ขณะที่ดัชนีนิกเคอิ ตลาดเปิดที่ 40,201.76 จุด เพิ่มขึ้น 290.94 จุด หรือ +0.73%
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (1 มี.ค.) ที่ 1,367.42 จุด ลดลง 3.25 จุด (-0.24%) มูลค่าการซื้อขาย 49,556.62 ล้านบาท
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 863.62 ล้านบาท (1 มี.ค.)
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. (1 มี.ค.) เพิ่มขึ้น 1.71 ดอลลาร์หรือ 2.19% ปิดที่ 79.97 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และเพิ่มขึ้นมากกว่า 4.5% ในสัปดาห์นี้
- ค่าการกลั่นอ้างอิงล่าสุดของตลาดสิงคโปร์ (1 มีนาคม) อยู่ที่ 7.23 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิดที่ 35.81 แข็งค่าขึ้น หลังข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ กดดันเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง
- ทีมกรุ๊ปคาดการณ์ว่าช่วงหน้าแล้งนี้ควรระวังอุณหภูมิที่สูงขึ้นเกิน 40-45 องศา เนื่องจากสภาวะเอลนีโญ “ฝนน้อยน้ำน้อย” ต่อเนื่องถึงเดือนพฤษภาคม ในอ่างเล็กๆ น้ำจะระเหยเร็ว ต้องหาแหล่งน้ำขนาดใหญ่ไว้สำรอง ส่วนเกษตรกรแห่ปลูกข้าวนาปรังกว่า 8 ล้านไร่ เตรียมเงินสูบน้ำเข้านา พบเขื่อนน้ำน้อยหลัก 5 เขื่อน “สิริกิติ์-ทับเสลา-กระเสี้ยว-คลองสี่ยัต-ปราณบุรี”
- นายกรัฐมนตรีให้ไทยเป็นศูนย์กลางการบิน ยกระดับสนามบินในเมืองหลักและเมืองรอง ปลดล็อคสุวรรณภูมิ-ดอนเมือง เพิ่มอาคารผู้โดยสารและรันเวย์รองรับนักท่องเที่ยว 200 ล้านคน ตั้งเป้าติด 20 อันดับแรกของโลก ทำให้การบินไทยใหญ่อันดับ 3 ในเอเชีย ชี้สนามบินอันดามันพัฒนาสนามบินกลางทะเล รับและส่งผู้โดยสารชั้นสูงที่เชื่อมต่อเกาะสมุย – เกาะช้าง และหัวหิน
- รายงานจากกระทรวงพาณิชย์ว่าการขาดดุลการค้ายังคงเป็นปัญหาใหญ่ของเศรษฐกิจไทย ในปี 2566 ประเทศไทยขาดดุลการค้า 5,192 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 199,000 ล้านบาท เนื่องจากมูลค่าการนำเข้าสูงกว่าการส่งออก มูลค่าการนำเข้าอยู่ที่ 289,754 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่การส่งออกอยู่ที่ 284,561 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยจีนมีการขาดดุลการค้ามากที่สุดในประเทศไทย ประเทศไทยขาดดุลถึง 36,635 ล้านดอลลาร์ หรือ 1.4 ล้านล้านบาท เนื่องจากไทยนำเข้าจากจีน 70,800 ล้านดอลลาร์ แต่ส่งออกไปจีนเพียง 34,164 ล้านดอลลาร์
- “นิดาโพล” เผยประชาชนยกย่อง “ทักษิณ” มีอิทธิพลทางการเมือง “ปิธา”มีความเห็นอกเห็นใจ “เศรษฐา” เผย “ทักษิณ” ยังไม่บอกจะเป็นที่ปรึกษา โปรดดูแลตัวเอง – อยู่กับครอบครัวก่อน ย้ำว่าอดีตนายกฯเปิดใจให้คำปรึกษา
*หุ้นแนะนำวันนี้
- WHA (ดาว) ตั้งเป้า 4.75 บาท) ราคาหุ้นปรับตัวลดลงไม่น้อย ในขณะเดียวกันกำไรไตรมาส 4 และสภาวะอุตสาหกรรมยังดีอยู่ บริษัทเผยยอดขายปี 2566 2.77 พันไร่ ตั้งเป้าปี 2567 2.28 พันไร่ พร้อมขายทรัพย์สินให้ WHART และ WHAIR รวม 213 แสนตร.ม. บริษัทรายงานกำไรสุทธิไตรมาส 4 ปี 2566 อยู่ที่ 2.4 พันล้านบาท (-15% YoY, +288% QoQ) เป็นไปตามคาดของตลาด หักกำไร FX จะทำให้กำไรปกติอยู่ที่ 2.6 พันล้านบาท (-8% YoY +339% รายไตรมาส) เราคาดว่ากำไรปกติในปี 2567 จะอยู่ที่ 4.6 พันล้าน บาท (+4% YoY) จากยอดจองสูง 2.25 พันไร่ (สูงสุดในรอบ 10 ปีหลังปี 2566) และยอดโอนยังสูง 2.1 พันไร่ โดยได้รับแรงหนุนจากการสนับสนุนการลงทุนในประเทศไทย การย้ายถิ่นฐานของจีน และการพัฒนาของ ประเทศไทยเป็นศูนย์กลาง EV ตามมาตรการ 30@30
- ไอวีแอล (กรุงศรี) “ซื้อ” ตั้งเป้า IAA Consensus 27 บาท ได้รับความเชื่อมั่นเชิงบวกโดยตรงจากดัชนี Global PMI สำหรับภาคการผลิตในเดือนนี้ กุมภาพันธ์เพิ่มขึ้นเป็น 50.3 จาก 50 ในเดือนมกราคม ซึ่งเพิ่มขึ้นเหนือ 50 เป็นครั้งแรกในรอบ 18 เดือน
- เคทีซี (IRA) “ทยอยซื้อสะสม” ตั้งเป้า 45.25/47.00 บ. เมื่อดูราคาเคทีซีก็ปรับลดลงแล้วเนื่องจากมีปัจจัยลบค่อนข้างมาก ขณะที่รอปัจจัยบวกเข้ามาในช่วงหน้า เช่น 1.) สินเชื่อจะดีขึ้นหากเศรษฐกิจฟื้นตัว 2.) คาดว่าวงจร NPL กำลังเข้าใกล้ช่วงพีค 3.) คาดหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐ 4.) อัตราดอกเบี้ยนโยบายผ่านแล้ว ผ่านจุดพีคไปแล้ว ส่วนราคาปัจจุบันซื้อขายแค่ Fwd PB เฉลี่ย 3 ปี 1.5 SD ทำให้เราคิดว่า KTC มี downside ค่อนข้างจำกัด ในทางเทคนิค ราคาแกว่งตัวไปด้านข้าง ไม่ได้ทำจุดต่ำสุดใหม่ในภาพรวมระยะสั้น และพยายามฟื้นตัว โดยมีปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันเครื่องมือทางเทคนิค MACD และ SSTO ส่งสัญญาณซื้อ
คำแนะนำการอ่านบทความนี้ : บางบทความในเว็บไซต์ ใช้ระบบแปลภาษาอัตโนมัติ คำศัพท์เฉพาะบางคำอาจจะทำให้ไม่เข้าใจ สามารถเปลี่ยนภาษาเว็บไซต์เป็นภาษาอังกฤษ หรือปรับเปลี่ยนภาษาในการใช้งานเว็บไซต์ได้ตามที่ถนัด บทความของเรารองรับการใช้งานได้หลากหลายภาษา หากใช้ระบบแปลภาษาที่เว็บไซต์ยังไม่เข้าใจ สามารถศึกษาเพิ่มเติมโดยคลิกลิ้งค์ที่มาของบทความนี้ตามลิ้งค์ที่อยู่ด้านล่างนี้
Source link