ออมสิน ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ เพิ่มสูงสุด 0.30% ขานรับดอกเบี้ยนโยบาย
พร้อมตรึงดอกเบี้ยเงินกู้ให้นานที่สุด เพื่อช่วยเหลือลูกค้ารายย่อยและกลุ่มเปราะบาง
วันที่ 11 สิงหาคม 2565 นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า จากการที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ได้มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย จาก 0.50% ต่อปี เป็น 0.75% ต่อปี มีผลเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2565 เป็นต้นไปนั้น
เพื่อเป็นการดูแลผู้ฝากเงินให้ได้รับประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น ธนาคารออมสินซึ่งมีภารกิจหลักในการเป็นสถาบันการเงินเพื่อการออม จึงประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 3 เดือน/6 เดือน ปรับขึ้น 0.15% เงินฝากประจำ 12 เดือน ปรับขึ้น 0.20% และเงินฝากประจำ 24 เดือน/36 เดือน ปรับขึ้น 0.30%
ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการออม และให้ประชาชนได้มีกำลังซื้อเพิ่มมากขึ้นในช่วงที่กำลังเริ่มกลับมามีกิจกรรมทางเศรษฐกิจ
สำหรับลูกค้าสินเชื่อ ธนาคารมีมาตรการช่วยเหลือโดยจะยังตรึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ขั้นต่ำ (MLR, MOR และ MRR) ไว้ให้นานที่สุด เพื่อชะลอผลกระทบต่อลูกค้ารายย่อย ผู้ประกอบการ SMEs และกลุ่มเปราะบาง ซึ่งเป็นไปตามนโยบายรัฐบาลและกระทรวงการคลัง ที่มอบหมายสถาบันการเงินของรัฐตรึงดอกเบี้ยเงินกู้ไว้ก่อน
ทั้งนี้ การประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ และตรึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ทุกประเภท เพื่อดูแลสิทธิประโยชน์ของลูกค้าเงินฝาก รวมถึงช่วยเหลือประคับประคองลูกค้าสินเชื่อในช่วงที่เศรษฐกิจอยู่ระหว่างฟื้นตัวและยังไม่กลับมาอยู่ในภาวะปกติ
โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคม 2565 เป็นต้นไป
- กนง.เผยแบงก์ไม่เร่งขึ้นดอกเบี้ย หวั่นกระทบกลุ่มเปราะบาง
- กนง. มติ 6 ต่อ 1 ขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ในรอบ 4 ปี
- ธอส. ตรึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ถึงสิ้นปี’65 ดูแลลูกค้า 1.52 ล้านล้านบาท
- แบงก์อั้นไม่ขึ้นดอกเบี้ยกู้-ฝาก ถก ธปท.ขอลดเงินนำส่ง FIDF
-
ขึ้นดอกเบี้ย-ขึ้นค่าแรง
อ่านข่าวต้นฉบับ: ออมสิน ขยับขึ้นดอกเบี้ยฝากประจำสูงสุด 0.30% ตรึงดอกกู้ เริ่ม 15 ส.ค.
คำแนะนำการอ่านบทความนี้ : บางบทความในเว็บไซต์ ใช้ระบบแปลภาษาอัตโนมัติ คำศัพท์เฉพาะบางคำอาจจะทำให้ไม่เข้าใจ สามารถเปลี่ยนภาษาเว็บไซต์เป็นภาษาอังกฤษ หรือปรับเปลี่ยนภาษาในการใช้งานเว็บไซต์ได้ตามที่ถนัด บทความของเรารองรับการใช้งานได้หลากหลายภาษา หากใช้ระบบแปลภาษาที่เว็บไซต์ยังไม่เข้าใจ สามารถศึกษาเพิ่มเติมโดยคลิกลิ้งค์ที่มาของบทความนี้ตามลิ้งค์ที่อยู่ด้านล่างนี้
Source link : ต้นฉบับเนื้อหาข่าวนี้