ในการลงทุน การพิจารณาปัจจัยที่มีอยู่ทั้งหมดอาจทำให้เกิดความแตกต่างระหว่างการขาดทุนและกำไรได้ ผลกระทบเดือนกันยายนเป็นหนึ่งในปัจจัยเหล่านั้นที่อยู่เบื้องหลังสัญญาณรบกวนของตลาด บางครั้ง การรับรู้มีบทบาทในการเปลี่ยนแปลงของตลาด เนื่องจากความคาดหวังจะป้อนกลับเข้าสู่การดำเนินการของนักลงทุน จริงหรือไม่ “เดือนเลี่ยงสต๊อก” ครั้งนี้จะเป็นอย่างไร?
ผลกระทบเดือนกันยายนคืออะไร?
ในสหรัฐอเมริกา ปีงบประมาณจะสิ้นสุดในวันที่ 30 กันยายน ซึ่งเป็นเวลาสำหรับการเตรียมงบการเงินทั่วทั้งรัฐบาลกลางและองค์กรต่างๆ ในช่วงเวลาดังกล่าว นักลงทุนจะปรับโครงสร้างสินทรัพย์เพื่อล็อคการสูญเสียทางภาษีและกำไร ซึ่งอาจนำไปสู่การชำระบัญชีหุ้น ไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่ช่วงเวลานี้เกิดขึ้นพร้อมกับการรับรู้ถึงผลกระทบในเดือนกันยายน ตามมาด้วยผลกระทบในเดือนมกราคม
เนื่องจากความผิดปกติของตลาด ผลกระทบทั้งสองจึงปรากฏเป็นการชะลอตัวโดยไม่มีสาเหตุที่ชัดเจนซึ่งสามารถวัดปริมาณได้ง่าย เนื่องจากไม่สามารถคาดเดาได้และไม่สอดคล้องกัน ผลกระทบในเดือนกันยายนจึงเป็นสัญญาณที่คลุมเครืออีกประการหนึ่งที่คาดว่าจะมีประสิทธิภาพต่ำกว่าประสิทธิภาพของสินทรัพย์
Jeremy Siegel จาก Wharton School of Business Administration พยายามหาปริมาณผลกระทบในเดือนกันยายนในรายงานเรื่อง “กันยายน: เดือนที่ต้องหลีกเลี่ยงหุ้น” ศาสตราจารย์ด้านการเงินสรุปว่าการลดลงในวันที่ 63 กันยายนจากปี พ.ศ. 2433 ถึง 2537 เพียงแต่เพิ่มขึ้นในช่วงวันที่ 41 กันยายนเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ไม่สามารถสรุปได้ว่าเดือนกันยายนเป็นเดือนที่มีผลงานแย่ที่สุด ยิ่งไปกว่านั้น ในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา ผลที่รับรู้ได้ลดน้อยลงอย่างต่อเนื่อง มากเสียจน Siegel เองในพอดแคสต์ Behind the Markets เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ต่างมองโลกในแง่ดีสำหรับเดือนกันยายนนี้
ปัจจัยมหภาคที่ท้าทายความคาดหวังในเดือนกันยายน
หรือที่รู้จักกันในชื่อ “พ่อมดแห่งวอร์ตัน” ศาสตราจารย์ที่เกษียณอายุราชการได้กล่าวถึงปัจจัยหลายประการที่ทำให้เกิดแนวโน้มเชิงบวก ตัวชี้วัดประการหนึ่งมาจากราคาที่อยู่อาศัยที่ฟื้นตัวได้ ซึ่งมีความยืดหยุ่นมากกว่าที่คาดไว้อย่างแน่นอน
คำแนะนำการอ่านบทความนี้ : บางบทความในเว็บไซต์ ใช้ระบบแปลภาษาอัตโนมัติ คำศัพท์เฉพาะบางคำอาจจะทำให้ไม่เข้าใจ สามารถเปลี่ยนภาษาเว็บไซต์เป็นภาษาอังกฤษ หรือปรับเปลี่ยนภาษาในการใช้งานเว็บไซต์ได้ตามที่ถนัด บทความของเรารองรับการใช้งานได้หลากหลายภาษา หากใช้ระบบแปลภาษาที่เว็บไซต์ยังไม่เข้าใจ สามารถศึกษาเพิ่มเติมโดยคลิกลิ้งค์ที่มาของบทความนี้ตามลิ้งค์ที่อยู่ด้านล่างนี้
Source link