ดัชนีตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดบวกเมื่อวันอังคาร (12 ธ.ค.) หลังจากที่สหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่สอดคล้องกับการคาดการณ์ ขณะที่นักลงทุนจับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของสหรัฐฯ (Fed) วันนี้ตามเวลาสหรัฐฯ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดที่ 36,577.94 จุด เพิ่มขึ้น 173.01 จุด หรือ +0.48% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,643.70 จุด เพิ่มขึ้น 21.26 จุด หรือ +0.46% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,533.40 จุด เพิ่มขึ้น 100.91 จุด หรือ +0.70% .
ดัชนีหลักทั้งสามปิดในแดนบวกเป็นวันที่สี่ติดต่อกัน นอกจากนี้ ค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 4 มกราคม 2022 ขณะที่ S&P 500 ปิดที่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 14 มกราคม 2022 และดัชนี Nasdaq ปิดที่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 29 มีนาคม 2022
กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่าดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (Headline CPI) ซึ่งรวมถึงหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 3.1% ในเดือนพฤศจิกายนเมื่อเทียบเป็นรายปี สอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์จาก 3.2% ในเดือนตุลาคม
เมื่อพิจารณาเป็นรายเดือน ดัชนี CPI ทั่วไปเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนพฤศจิกายน ตรงกันข้ามกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ว่าจะไม่เพิ่มขึ้นตั้งแต่เดือนตุลาคม หรือเพิ่มขึ้น 0.0%
Core CPI ซึ่งไม่รวมอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 4.0% ในเดือนพฤศจิกายนเมื่อเทียบเป็นรายปี สอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์จาก 4.0% ในเดือนตุลาคม
นักลงทุนจับตาผลการประชุม Fed ซึ่งจะประกาศในวันนี้ (13 ธ.ค.) ตามเวลาสหรัฐอเมริกา พร้อมทั้งจับตาการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบายของ Fed (dot plot) และคำแถลงของนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟดพบป้ายชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยเฟดปี 2567
หลังจากที่สหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลข CPI นักลงทุนใส่น้ำหนักเกือบ 100% ในการคาดการณ์ว่า Fed จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 5.25-5.50% ในการประชุมครั้งนี้ แต่ข้อมูลล่าสุดจากเครื่องมือ FedWatch ของกลุ่ม CME ชี้ให้เห็นว่านักลงทุนได้ลดทอนความคาดหวังที่ว่า Fed จะเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมีนาคม 2024 และเพิ่มน้ำหนักให้กับความคาดหวังว่าเฟดจะเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนพฤษภาคม 2567
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวขึ้นเป็นวันที่สี่ติดต่อกันและเป็นหุ้นที่มีกำไรสูงสุดในบรรดาหุ้น 11 ตัวที่รวมอยู่ในดัชนี S&P 500 ในขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงอย่างหนักที่สุด หลังราคาน้ำมัน WTI ร่วงเกือบ 4%
หุ้นของ Oracle ผู้ให้บริการคลาวด์รายใหญ่ของสหรัฐฯ ร่วงลง 12.44% หลังจากที่บริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่อ่อนแอกว่าคาด เนื่องจากรายได้ของธุรกิจคลาวด์ชะลอตัวลง
นอกจากการประชุมเฟดแล้ว นักลงทุนยังจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ด้วย วันนี้ สหรัฐฯ จะเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ประจำเดือนพฤศจิกายน ในขณะที่วันพฤหัสบดีจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์และยอดค้าปลีกในเดือนพฤศจิกายน และในวันศุกร์จะมีการเปิดเผยการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพฤศจิกายน รวมถึงดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ประจำเดือนธันวาคมสำหรับภาคการผลิตและบริการจาก S&P Global
คำแนะนำการอ่านบทความนี้ : บางบทความในเว็บไซต์ ใช้ระบบแปลภาษาอัตโนมัติ คำศัพท์เฉพาะบางคำอาจจะทำให้ไม่เข้าใจ สามารถเปลี่ยนภาษาเว็บไซต์เป็นภาษาอังกฤษ หรือปรับเปลี่ยนภาษาในการใช้งานเว็บไซต์ได้ตามที่ถนัด บทความของเรารองรับการใช้งานได้หลากหลายภาษา หากใช้ระบบแปลภาษาที่เว็บไซต์ยังไม่เข้าใจ สามารถศึกษาเพิ่มเติมโดยคลิกลิ้งค์ที่มาของบทความนี้ตามลิ้งค์ที่อยู่ด้านล่างนี้
Source link