ตลาดหุ้นปิดเช้านี้ที่ 1,413.14 จุด เพิ่มขึ้น 27.10 จุด (+1.96%) มูลค่าการซื้อขายประมาณ 35,795 ล้านบาท
การซื้อขายช่วงเช้า ดัชนีปรับตัวขึ้นตามตลาดหุ้นภูมิภาค ระดับสูงสุดอยู่ที่ 1,413.61 จุด และระดับต่ำสุดอยู่ที่ 1,400.26 จุด
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีรธรรม รองกรรมการผู้จัดการสายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงเช้าดีดกลับอย่างแข็งแกร่งไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นเอเชีย ตอบรับความเชื่อมั่นบวก อัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ ในเดือนตุลาคม 2566 ออกมาลดลง เกินคาด ทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ พุ่งแรงตอบรับเมื่อคืนนี้ และส่งผลดีต่อตลาดหุ้นเอเชีย โดยตลาดคาดว่ารอบการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ จะสิ้นสุดลงแล้ว และคาดว่าการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ครั้งต่อไปจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ (Bond Yield) อายุ 10 ปี ลดลงอีกครั้ง ซึ่งเป็นปัจจัยสนับสนุนตลาดหุ้น
ขณะที่ปัจจัยในประเทศ ตลาดก็ได้ยินข่าวมากมายแล้ว และต้องรอติดตามกันต่อไปว่า Thailand ESG Fund จะได้รับการตอบรับจากนักลงทุนอย่างไร หากได้รับการตอบรับที่ดีจะเป็นปัจจัยที่จะช่วยพยุงตลาดหุ้นไทยได้ เนื่องจากสัดส่วนหุ้นใน SETESG มีน้ำหนักประมาณ 73% ของมูลค่าตลาด (Market Cap)
แนวโน้มช่วงบ่ายคาดว่าตลาดจะยังคงเคลื่อนไหวในแดนบวกเนื่องจากปัจจัยสนับสนุนเช่นเดียวกับในช่วงเช้า พร้อมแนวต้าน 1,415-1,420 จุด รองรับ 1,390-1,400 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
มูลค่าการซื้อขาย BBL 1,716.41 ล้านบาท ปิดที่ 151.00 บาท ลดลง 1.50 บาท
CPALL มูลค่าซื้อขาย 1,579.51 ล้านบาท ปิดที่ 57.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาท
GPSC มูลค่าการซื้อขาย 1,165.29 ล้านบาท ปิดที่ 46.75 บาท เพิ่มขึ้น 3.75 บาท
HANA มูลค่าซื้อขาย 1,111.51 ล้านบาท ปิดที่ 47.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.25 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,096.00 ล้านบาท ปิดที่ 98.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
คำแนะนำการอ่านบทความนี้ : บางบทความในเว็บไซต์ ใช้ระบบแปลภาษาอัตโนมัติ คำศัพท์เฉพาะบางคำอาจจะทำให้ไม่เข้าใจ สามารถเปลี่ยนภาษาเว็บไซต์เป็นภาษาอังกฤษ หรือปรับเปลี่ยนภาษาในการใช้งานเว็บไซต์ได้ตามที่ถนัด บทความของเรารองรับการใช้งานได้หลากหลายภาษา หากใช้ระบบแปลภาษาที่เว็บไซต์ยังไม่เข้าใจ สามารถศึกษาเพิ่มเติมโดยคลิกลิ้งค์ที่มาของบทความนี้ตามลิ้งค์ที่อยู่ด้านล่างนี้
Source link