ตลาดหลักทรัพย์ลอนดอนปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (12 มกราคม) โดยได้แรงหนุนจากหุ้นที่เกี่ยวข้องกับสินค้าโภคภัณฑ์ที่พุ่งสูงขึ้น แต่ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยทำให้ตลาดปิดลบในสัปดาห์นี้
ดัชนีหุ้นลอนดอน FTSE 100 ปิดที่ 7,624.93 จุด เพิ่มขึ้น 48.34 จุด หรือ +0.64%
ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวขึ้นเมื่อวันศุกร์ แต่มันก็ติดลบเป็นสัปดาห์ที่สองติดต่อกัน เนื่องจากนักลงทุนไม่แน่ใจเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
หุ้นเหมืองแร่โลหะมีค่าเพิ่มขึ้น 3.3% โดยมีการซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยที่แข็งแกร่ง ส่งผลให้ราคาทองคำสูงขึ้น หลังจากที่สหรัฐฯ และอังกฤษเปิดฉากโจมตีกลุ่มฮูตีในเยเมน
หุ้นใน BAE Systems ซึ่งเป็นบริษัทด้านอาวุธและการป้องกัน เพิ่มขึ้น 2.2% สู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์เพิ่มขึ้น ขณะที่หุ้นโรลส์รอยซ์และหุ้นเมลโรสก็ปรับขึ้นเช่นกัน
ตลาดยังได้รับการสนับสนุนจากการเปิดเผยการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของสหราชอาณาจักรที่ 0.3% ในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์ที่ 0.2%
ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากเงินปอนด์ที่ร่วงลง 0.2% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอังกฤษลดลง หลังจากที่ตลาดปรับตัวเพิ่มโอกาสที่ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนพฤษภาคม
คำแนะนำการอ่านบทความนี้ : บางบทความในเว็บไซต์ ใช้ระบบแปลภาษาอัตโนมัติ คำศัพท์เฉพาะบางคำอาจจะทำให้ไม่เข้าใจ สามารถเปลี่ยนภาษาเว็บไซต์เป็นภาษาอังกฤษ หรือปรับเปลี่ยนภาษาในการใช้งานเว็บไซต์ได้ตามที่ถนัด บทความของเรารองรับการใช้งานได้หลากหลายภาษา หากใช้ระบบแปลภาษาที่เว็บไซต์ยังไม่เข้าใจ สามารถศึกษาเพิ่มเติมโดยคลิกลิ้งค์ที่มาของบทความนี้ตามลิ้งค์ที่อยู่ด้านล่างนี้
Source link