© รอยเตอร์ ดอน ฟาร์เรลล์ รัฐมนตรีการค้าของออสเตรเลียเข้าร่วมงานแถลงข่าวหลังการประชุมกับรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์จีน หวัง เหวินเทา ในกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน วันที่ 12 พฤษภาคม 2566 REUTERS/Florence Lo/Pool
โดย ลูอิส แจ็กสัน
ซิดนีย์ (รอยเตอร์) – จีนจะเสร็จสิ้นการทบทวนภาษีไวน์ออสเตรเลียที่ใช้เวลานานหลายปีภายในสิ้นเดือนมีนาคม และกำลังทบทวนข้อจำกัดในการนำเข้ากุ้งล็อบสเตอร์ด้วย ดอน ฟาร์เรลล์ รัฐมนตรีกระทรวงการค้าของออสเตรเลีย กล่าวเมื่อวันอาทิตย์
ฟาร์เรลล์กล่าวว่าเขาหวังว่าจีนจะขึ้นภาษีไวน์ออสเตรเลียสูงสุดถึง 218% ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในปี 2021 เมื่อการตรวจสอบเสร็จสิ้น และยังมีความคืบหน้าที่ดีเกี่ยวกับข้อจำกัดการนำเข้าล็อบสเตอร์อย่างไม่เป็นทางการ
“กระบวนการนั้น () กำลังจะสิ้นสุดลงในขณะนี้ และภายในสิ้นเดือนมีนาคม กระบวนการดังกล่าวจะเสร็จสิ้น” เขากล่าวในสกายนิวส์เมื่อวันอาทิตย์ “รัฐมนตรีการค้าจีนยืนยันเรื่องนี้กับฉันเมื่อสัปดาห์ก่อนสัปดาห์ที่แล้ว”
อย่างไรก็ตาม ฟาร์เรลล์กล่าวว่าออสเตรเลียจะไม่ลังเลที่จะกลับมาดำเนินคดีกับองค์การการค้าโลกต่อภาษีดังกล่าว หากจีนไม่ถอดถอนภาษีเหล่านี้ออกหลังจากการทบทวน ซึ่งปักกิ่งเริ่มเมื่อปีที่แล้ว
จีนได้ยกเลิกมาตรการกีดกันทางการค้าที่บังคับใช้ตั้งแต่ปลายปี 2020 สำหรับสินค้าโภคภัณฑ์หลายประเภท เช่น ข้าวบาร์เลย์ ไวน์ ถ่านหิน และล็อบสเตอร์ ข้อจำกัดดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการทะเลาะวิวาทกันที่ทวีความรุนแรงขึ้นเกี่ยวกับการลงทุนและความมั่นคงจากต่างประเทศ ซึ่งปะทุขึ้นเมื่อออสเตรเลียเรียกร้องให้มีการสอบสวนถึงต้นกำเนิดของโควิด-19
อัตราภาษีไวน์และข้อจำกัดอย่างไม่เป็นทางการเกี่ยวกับการนำเข้ากุ้งล็อบสเตอร์เป็นหนึ่งในอุปสรรคบางประการที่เหลืออยู่
ฟาร์เรลล์กล่าวว่ารัฐมนตรีการค้าของจีนได้บอกเขาด้วยว่าการทบทวนข้อจำกัดเกี่ยวกับกุ้งล็อบสเตอร์ก็กำลังดำเนินการอยู่
“เท่าที่เกี่ยวกับล็อบสเตอร์ … ฉันได้รับความเข้าใจจากทางการจีนว่าพวกเขากำลังตรวจสอบปัญหาล็อบสเตอร์ของเราที่เข้ามาในจีน” เขากล่าว
“ทุกอย่างกำลังมุ่งหน้าไปในทิศทางที่ถูกต้อง”
คำแนะนำการอ่านบทความนี้ : บางบทความในเว็บไซต์ ใช้ระบบแปลภาษาอัตโนมัติ คำศัพท์เฉพาะบางคำอาจจะทำให้ไม่เข้าใจ สามารถเปลี่ยนภาษาเว็บไซต์เป็นภาษาอังกฤษ หรือปรับเปลี่ยนภาษาในการใช้งานเว็บไซต์ได้ตามที่ถนัด บทความของเรารองรับการใช้งานได้หลากหลายภาษา หากใช้ระบบแปลภาษาที่เว็บไซต์ยังไม่เข้าใจ สามารถศึกษาเพิ่มเติมโดยคลิกลิ้งค์ที่มาของบทความนี้ตามลิ้งค์ที่อยู่ด้านล่างนี้
ที่มาบทความนี้