SET ปิดเช้านี้ที่ 1,533.12 จุด เพิ่มขึ้น 1.89 จุด (+0.12%) มูลค่าการซื้อขาย 19,639.82 ล้านบาท
การซื้อขายภาคเช้าแกว่งตัวในแดนบวก ค่อยๆ ลดช่วงบวกลง ทำจุดต่ำสุดที่ 1,531.04 จุด และสูงสุดที่ 1,542.41 จุด
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นในช่วงเช้า ตามทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในเอเชียที่ปรับตัวขึ้นตามตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนนี้ หลังสหรัฐรายงาน GDP ไตรมาสที่ 1 ปี 2566 ขยายตัว 1.1% จากไตรมาสก่อน ซึ่งน้อยกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ 2% ทำให้ตลาดคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งสุดท้ายในการประชุมช่วงต้นเดือนพ.ค. และหลังจากนั้นจะคงอัตราดอกเบี้ย ในช่วงที่ตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ พบว่าตลาดหุ้นไปได้ดี
ขณะที่ปัจจัยในประเทศยังไม่ใช่ปัจจัยใหม่ พร้อมติดตามการรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในไตรมาสที่ 1 ปี 2566 อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ผลกระทบของหุ้น DELTA ต่อดัชนีก็ลดลง หลังจากวันนี้ซื้อขายในพาร์ใหม่ วานนี้หากไม่นับรวมผลกระทบจากราคาหุ้น DELTA ที่ปรับตัวลงมาแรง ถือว่า ดัชนีสามารถขยับขึ้นได้เล็กน้อย
แนวโน้มตลาดหุ้นไทยในช่วงบ่ายคาดว่าจะเคลื่อนไหวต่อในแดนบวก และคืนนี้ยังคงต้องติดตามรายงานเงินเฟ้อ PCE ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่เฟดจะพิจารณาเมื่อขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยให้แนวต้าน 1,545 จุด แนวรับ 1,520 จุด
หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
DELTA มูลค่าการซื้อขาย 1,669.28 ล้านบาท ปิดที่ 73.50 บาท ลดลง 1.30 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 672.14 ล้านบาท ปิดที่ 103.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
JMART มูลค่าซื้อขาย 651.91 ลบ. ปิด 20.00 บ. เพิ่มขึ้น 1.40 บ.
ปตท.สผ. มูลค่าการซื้อขาย 532.38 ลบ. ปิดที่ 150.50 ลบ. ลดลง 1.00 บ.
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 491.25 ล้านบาท ปิดที่ 64.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
คำแนะนำการอ่านบทความนี้ : บางบทความในเว็บไซต์ ใช้ระบบแปลภาษาอัตโนมัติ คำศัพท์เฉพาะบางคำอาจจะทำให้ไม่เข้าใจ สามารถเปลี่ยนภาษาเว็บไซต์เป็นภาษาอังกฤษ หรือปรับเปลี่ยนภาษาในการใช้งานเว็บไซต์ได้ตามที่ถนัด บทความของเรารองรับการใช้งานได้หลากหลายภาษา หากใช้ระบบแปลภาษาที่เว็บไซต์ยังไม่เข้าใจ สามารถศึกษาเพิ่มเติมโดยคลิกลิ้งค์ที่มาของบทความนี้ตามลิ้งค์ที่อยู่ด้านล่างนี้
Source link