หน้าแรกKNOWLEDGEบอนด์ ยีลด์ (Bond Yield)

บอนด์ ยีลด์ (Bond Yield)

บอนด์ ยีลด์ (Bond Yield) คือ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล เป็นผลตอบแทนที่นักลงทุนคาดหวังจากการถือครองพันธบัตรรัฐบาลอายุต่าง ๆ

บอนด์ ยีลด์  มากจากคำ 2 คำ คือ ยีลด์ (Yield) หมายถึง ผลตอบแทน และ บอนด์ (Bond) หมายถึงพันธบัตร สรุป บอนด์ ยีลด์ คือผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล ซึ่งโดยปกตินักลงทุนทั่วโลกจะให้ความสนใจกับ พันธบัตรรัฐบาล  อายุ 10 ปี เป็นหลัก โดยเฉพาะพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี (10-year Treasury Yield)

บอนด์ ยีลด์  คือ ตราสารทางการเงินที่ผู้ถือ (นักลงทุน) มีสถานะเป็นเจ้าหนี้ และ ผู้ออกมีสถานะเป็นลูกหนี้ โดยเจ้าหนี้จะได้รับผลตอบแทนในรูปของ “ดอกเบี้ย” อย่างสม่ำเสมอตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ และ จะได้รับ “เงินต้น” คืนเมื่อครบกำหนดอายุ

 

ทำไมตลาดหุ้นปรับตัวลง เมื่อ Bond Yield เพิ่มสูงขึ้น

เมื่อ Bond Yield หรือ อัตราผลตอบแทนรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้น สิ่งที่ตามมาคือ ความกังวลของนักลงทุนว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย สาเหตุอาจจะมาจากต้องการลดความร้อนแรงของอัตราเงินเฟ้อภายในประเทศลง หากปรับขึ้นดอกเบี้ยไม่มากจะไม่ส่งผลอะไรกับตลาดหุ้นมากนัก แต่ถ้าหากอัตราดอกเบี้ยสูงขึ้นอย่างรวดเร็วอาจจะทำให้กำไรบริษัทต่าง ๆ ในตลาดหุ้นลดลงเพราะต้นทุนในการกู้ยืมในการดำเนินธุรกิจจะสูงขึ้น
นอกจากนี้เมื่ออัตราดอกเบี้ยเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จะทำให้ดอกเบี้ยที่ได้รับจากการลงทุนตราสารหนี้สูงขึ้นกว่าเดิม เมื่อการลงทุนตราสารหนี้มีโอกาสได้รับดอกเบี้ยที่สูงขึ้น จึงทำให้นักลงทุนเทขายหุ้นและหันไปลงทุนในตราสารหนี้แทน
ช่วงหลายปีที่ผ่านมาผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกาอยู่ในระดับต่ำ ส่งผลให้เม็ดเงินลงทุนจำนวนมากไหลเข้าสู่ตลาดหุ้น ทำให้ดัชนีหุ้นปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ถ้าหากผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกาเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ จะทำให้เม็ดเงินลงทุนจำนวนมากไหลออกจากตลาดหุ้นกลับไปที่สหรัฐอเมริกา
เมื่อ Bond Yield ของสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้น จะส่งผลให้อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลของประเทศต่าง ๆ เพิ่มสูงขึ้นตาม เพื่อป้องกันไม่ให้เงินลงทุนไหลออกจากประเทศของตนเองไปยังสหรัฐฯ

 

ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกา
ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกา

 

พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ถือเป็นพันธบัตรที่ใช้อ้างอิงในการกำหนดราคาของพันธบัตรรัฐบาลของประเทศต่าง ๆทั่วโลก ซึ่งรวมถึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนอง หากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวขึ้น จะทำให้บริษัทต่างๆ เผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้นจากการชำระหนี้ ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทเหล่านี้ลดการลงทุน และลดการจ่ายเงินปันผลแก่นักลงทุน

 

ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลจะแปรผกผันกับราคาพันธบัตรเสมอ

สมมุติว่ารัฐบาลได้ออก บอนด์ ยีลด์  ราคาอยู่ที่ 100 บาท และ ให้ผลตอบแทน  5 เปอร์เซ็นต์ หรือ 5 บาท เมื่อเวลาผ่านไปนักลงทุนได้มีการเทขายพันธบัตรจำนวนมากทำให้ราคาพันธบัตรลดลงมาที่ 80 บาท  ซึ่งหมายถึงตอนนี้ที่ราคา 80 บาท จะ มีผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลมากขึ้น ( ซื้อ 80 บาท แต่ได้ผลตอบแทน 5 บาท ) ที่เราได้ยินข่าวบ่อย ๆ ว่า บอนด์ ยิลด์ ปรับตัวสูงขึ้น สาเหตุมาจากมีนักลงทุนได้เทขายพันธบัตรจำนวนมาก

 

 

ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลจะแปรผกผันกับราคาพันธบัตรเสมอ
ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลจะแปรผกผันกับราคาพันธบัตรเสมอ

 

ในทำนองเดียวกัน เมื่อเวลาผ่านไปมีการเข้าซื้อพันธบัตรจำนวนมากทำให้ราคาพันธบัตรเพิ่มขึ้นเป็น 120 บาท แสดงว่าผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลลดต่ำลง เนื่องจากหากเข้าซื้อตอนนี้ที่ราคา 120 บาท ( ซื้อ 120 บาท แต่ได้ผลตอบแทน 5 บาท )

 

แนวโน้ม บอนด์ยีลด์  ในปัจจุบัน

สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ (Treasury Yield) อายุ 10 ปีมีการปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐมีการปรับตัวลง

 

10-year Treasury Yield USA แนวโน้มผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
10-year Treasury Yield USA แนวโน้มผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

 

ทำไมผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวเพิ่มขึ้น 

ปัจจุบันนักลงทุนทั่วโลกกำลังกังวลกับทิศทางของเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะรีบปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอย่างรุนแรงเพื่อป้องกันความเสี่ยงของภาวะเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว  ต้องรีบเบรคไม่ให้เศรษฐกิจนั้นมีการขยายตัวมากเกินไป
ในทางเศรษฐศาสตร์ อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นบ้าง หรือ ในระดับที่ธนาคารกลางของประเทศนั้น ๆ ต้องการถือว่าเป็นเรื่องที่ดีต่อเศรษฐกิจประเทศโดยรวม แต่เงินเฟ้อเพิ่มขึ้นมากจนเกินไปจะเป็นความเสี่ยงให้เกิดภาวะฟองสบู่ (เงินเฟ้อที่ ธนาคารกลางของแต่ละประเทศต้องการ ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ประมาณ 2-3 เปอร์เซ็นต์ แต่ปัจจุบัน ณ เมษายน 2565 เงินเฟ้อประเทศเศรษฐกิจหลักส่วนใหญ่อยู่ที่ 5-7 เปอร์เซ็นต์ สาเหตุอาจมาจากหลังโควิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ ราคาน้ำมันตอนนี้ก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งน้ำมันเป็นส่วนสำคัญของต้นทุนสินค้า )
RELATED ARTICLES
- Advertisment -
Technical Summary Widget Powered by Investing.com

ANALYSIS TODAY

Translate »