spot_imgspot_img
spot_img
หน้าแรกTHAI STOCKทิศทางการพัฒนาเศรษฐกิจกัมพูชาหลังการเลือกตั้ง | RYT9

ทิศทางการพัฒนาเศรษฐกิจกัมพูชาหลังการเลือกตั้ง | RYT9


ทิศทางการพัฒนาเศรษฐกิจกัมพูชาหลังการเลือกตั้งและความท้าทายของประเทศไทย

โดย รองศาสตราจารย์ ดร.พิทยา สุวคาน วิทยาลัยสหวิทยาการ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ผลการเลือกตั้งกัมพูชาเมื่อเร็วๆ นี้ถือเป็นการเปิดฉากการถ่ายโอนอำนาจทางการเมืองอย่างน่าทึ่ง โดยส่งมอบกระบองให้กับฮุน มาเนต บุตรชายของอดีตนายกรัฐมนตรีฮุน เซน ซึ่งถือว่ามีบทบาทในการเปลี่ยนแปลงกัมพูชา เข้าสู่ยุคสมัยใหม่ที่เข้ามายึดครองประเทศเป็นเวลา 3 ทศวรรษนับตั้งแต่ พ.ศ. 2536 สิ่งที่เกิดขึ้นในกัมพูชาส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคมในประเทศไทยอย่างไร? ผู้เขียนจึงอยากเชิญชวนให้ถามคำถามเกี่ยวกับปรากฏการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นร่วมกัน

โฉมใหม่กัมพูชากับทุนต่างชาติ

ภายใต้การนำของฮุนเซน เราได้เห็นการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพของพื้นที่ชั้นนำในกัมพูชาอย่างชัดเจน ภาพเมืองเก่าที่ทรุดโทรมและด้อยพัฒนาอันเป็นผลจากสงครามกลางเมืองจึงถูกลบล้างไป หากใครไปเที่ยวพนมเปญตอนนี้จะได้เห็นทิวทัศน์เมืองแบบใหม่ที่รายล้อมไปด้วยตึกสูง ห้างสรรพสินค้า โรงแรมชั้นนำ ร้านอาหารและร้านกาแฟทันสมัย จุดยอดนิยมอีกแห่งหนึ่งคือสีหนุวิลล์ ซึ่งได้รับการพัฒนาจนถึงจุดที่ได้รับการขนานนามว่า “เมืองสีหนุวิลล์” “มาเก๊าแห่งเอเชีย” ใหม่

ผู้นำกัมพูชาให้คำมั่นต่อสาธารณะว่าจะถอดประเทศออกจากการเป็นประเทศพัฒนาน้อยที่สุดภายในปี 2570 โดยตัวบ่งชี้การเติบโตทางเศรษฐกิจและรายได้ต่อหัวชี้ไปในทิศทางเดียวกัน ข้อมูลจากธนาคารโลกขณะนี้แสดงให้เห็นว่า GDP ต่อหัวของกัมพูชาอยู่ที่ประมาณ 1,600 เหรียญสหรัฐฯ เทียบกับ 300 เหรียญสหรัฐฯ ในปี 2543 ซึ่งเพิ่มขึ้นเกือบห้าเท่าในรอบสองทศวรรษ ในขณะที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจกัมพูชาจะขยายตัว . อัตราเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณร้อยละ 5.4 โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากภาคการส่งออกที่ยังคงขยายตัวและภาคการท่องเที่ยวที่ค่อยๆฟื้นตัว โดยมีรัฐบาลจีนให้ความช่วยเหลือทางการเงิน จีนได้รับอนุญาตให้ก่อตั้งธุรกิจภายในประเทศได้ โดยการสนับสนุนพื้นที่การลงทุน สีหนุวิลล์เป็นตัวอย่างของการสร้างเขตเศรษฐกิจ สิ่งนี้ทำให้กัมพูชาเป็นส่วนหนึ่งของโครงการริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางของจีน (BRI) นอกจากนี้ยังมีคู่ค้าที่สำคัญเช่นสหรัฐอเมริกา มาเลเซีย และเวียดนาม เป็นต้น ประเทศเหล่านี้มีอิทธิพลและเป็นผู้สนับสนุนอิทธิพลให้กับรัฐบาลภายใต้การนำของฮุนเซน

ภายใต้ร่มเงาของความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจและการเป็นแหล่งธุรกิจใต้ดินในภูมิภาค

เมื่อมองย้อนกลับไปอีกมุมหนึ่ง การเติบโตของกัมพูชาถือว่าส่งผลกระทบอย่างมากต่อประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะมิติความมั่นคงบริเวณชายแดน พื้นที่หลายแห่งของกัมพูชา โดยเฉพาะเขตเศรษฐกิจพิเศษบริเวณชายแดน ถูกมองว่าเป็นแหล่งเพาะธุรกิจที่ผิดกฎหมาย และการฟอกเงินจากธุรกิจสีเทา รวมถึงการผลิตสินค้าเลียนแบบแบรนด์ดัง รวมถึงเสื้อผ้า รองเท้า สุรา เบียร์ และบุหรี่ ที่แพร่กระจายปัญหาไปทั่วภูมิภาค ในประเทศไทยเราได้เห็นข่าวกองทัพมดและผู้ค้ารายใหญ่ลักลอบขนสินค้าฝ่าฝืนภาษีหรือลอกเลียนแบบแบรนด์มาขายในไทยหรือข้ามแดนไปยังที่อื่นๆ อย่างต่อเนื่อง ปัญหาใหญ่อีกประการหนึ่งที่รัฐบาลไทยและหลายประเทศกำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้คือเครือข่ายแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ที่แพร่กระจายอย่างหนักและสร้างปัญหาไปทั่ว ในข่าวจากหน่วยงานความมั่นคงของไทยก็รู้ด้วยว่ากัมพูชาเป็นต้นกำเนิดสำคัญของกลุ่มธุรกิจสีเทานี้ คนไทยจำนวนมากตกเป็นเหยื่อของกระบวนการฉ้อโกงเหล่านี้ และอีกหลายคนเสียชีวิต ในปี 2565 ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่าพบการฉ้อโกงโทรศัพท์จากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ทั้งหมด 6.4 ล้านเท่าในปี 2564 เพิ่มขึ้นถึง 270% จากช่วงเดียวกันของปี 2563 คาดว่าจะสร้างความเสียหายกว่า 1,500 ล้านบาท ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลจากกองบังคับการตำรวจนครบาลกลางที่ดำเนินการรื้อถอนเครือข่ายเหล่านี้ . ซึ่งมีฐานปฏิบัติการในเขตเศรษฐกิจตามแนวชายแดนประเทศกัมพูชา

การเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจการเมืองสมัยใหม่

กัมพูชาพยายามปักหมุดสีหนุวิลล์ให้เป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจหลักของประเทศรองจากพนมเปญและเสียมราฐ เพื่อดึงดูดนักลงทุน กัมพูชาได้พัฒนาโรงไฟฟ้าถ่านหิน 3 แห่ง มีกำลังการผลิตรวมร้อยละ 20 ของกำลังการผลิตของประเทศ โดยกัมพูชาลงทุน จีนและมาเลเซีย นอกจากนี้ยังมีนิคมอุตสาหกรรมในเมืองสีหนุวิลล์ ที่ได้รับการอนุมัติให้เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ (SEZ) 7 แห่ง มีโรงงานอุตสาหกรรมมากกว่า 300 แห่ง การตั้งถิ่นฐานที่ใหญ่ที่สุดคือสีหนุวิลล์ SEZ กัมพูชาได้ให้สิทธิพิเศษแก่ผู้ประกอบการที่ลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษ เช่น สัญญาเช่าพื้นที่ระยะยาว 50 ปี การยกเว้นภาษีนำเข้าสินค้าและวัตถุดิบ เครื่องจักรและเครื่องมือในการผลิต ได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้เก้าปีจากกำไร วีซ่าถาวรสำหรับนักลงทุน และการอนุญาตให้ทุนจีนขับเคลื่อนเศรษฐกิจ พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน คอนโดมิเนียม โรงแรม ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า สถานบันเทิง และคาสิโน

เมื่อมาถึงจุดนี้ สีหนุวิลล์ได้เปลี่ยนเป็นเมืองกัมพูชาแห่งใหม่ที่คึกคักในโลกของระบบทุนนิยมสมัยใหม่ ถือเป็น “มาเก๊าแห่งเอเชีย” ที่มีคาสิโนมากกว่า 100 แห่ง อย่างไรก็ตาม ผลกระทบของการระบาดของโควิด-19 ชาวกัมพูชาราว 300,000 คนตกงาน และโครงการพัฒนาต่างๆ รวมถึงสีหนุวิลล์ถือเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด ด้วยการถอนการลงทุน เมืองที่เต็มไปด้วยอาคารร้างก็ปรากฏขึ้น อาคารสูงหลายพันแห่งยังสร้างไม่เสร็จ มันกลายเป็นเมืองที่โดดเดี่ยว ไม่เหมือนที่ผ่านมา

การสร้างสมดุลระหว่างการเร่งการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคง และการรักษาความสัมพันธ์กับนักลงทุนต่างชาติถือเป็นปัญหาใหญ่ ที่สำคัญการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้กลายเป็นปัจจัยเสี่ยงอีกประการหนึ่งในเศรษฐกิจการเมืองของกัมพูชาที่รอต้อนรับรัฐบาลใหม่ ก็ต้องรอดูต่อไปว่าจะอยู่ภายใต้การนำของผู้นำคนใหม่ทั้งฝ่ายไทยและกัมพูชาหรือไม่ เศรษฐกิจของทั้งสองประเทศจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร? การค้าข้ามพรมแดนจะเติบโตและแก้ไขปัญหาธุรกิจใต้ดินและผิดกฎหมายได้หรือไม่? และโครงการพัฒนาจะเป็นไปตามกฎเกณฑ์เศรษฐกิจชายแดนที่มีร่วมกันในภูมิภาคมานานกว่าทศวรรษอย่างไร? การต่างประเทศเชิงรุกของไทยต่อประเทศเพื่อนบ้านอย่างกัมพูชาจะเน้นไปที่ด้านบวกจนละเลยความท้าทายที่ซ่อนอยู่หรือไม่? และนี่คงเป็นความท้าทายสำหรับรัฐบาลไทยชุดใหม่เช่นกัน



     
คำแนะนำการอ่านบทความนี้ : บางบทความในเว็บไซต์ ใช้ระบบแปลภาษาอัตโนมัติ คำศัพท์เฉพาะบางคำอาจจะทำให้ไม่เข้าใจ สามารถเปลี่ยนภาษาเว็บไซต์เป็นภาษาอังกฤษ หรือปรับเปลี่ยนภาษาในการใช้งานเว็บไซต์ได้ตามที่ถนัด บทความของเรารองรับการใช้งานได้หลากหลายภาษา หากใช้ระบบแปลภาษาที่เว็บไซต์ยังไม่เข้าใจ สามารถศึกษาเพิ่มเติมโดยคลิกลิ้งค์ที่มาของบทความนี้ตามลิ้งค์ที่อยู่ด้านล่างนี้

Source link
spot_imgspot_img
RELATED ARTICLES
- Advertisment -
Technical Summary Widget Powered by Investing.com

ANALYSIS TODAY

Translate »