ตลาดหุ้นลอนดอนปิดทำการในวันพฤหัสบดี (ก.ค. 60) แตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 3 เดือน ตามการปรับตัวลดลงของตลาดหุ้นทั่วโลก เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการขึ้นดอกเบี้ย ความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และจีน ยังกดดันบรรยากาศการซื้อขาย
FTSE 100 London Stock Exchange ปิดที่ 7,280.50 ลดลง 161.60 หรือ -2.17% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม
ตลาดหุ้นทั่วโลกร่วงหนักสุดในปีนี้ หลังจากการเปิดเผยข้อมูลตลาดแรงงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐสนับสนุนการคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยทั่วโลกรอบใหม่
การซื้อขายได้รับผลกระทบจากรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งบ่งชี้ว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป
หุ้นทั้งหมดในตลาดหลักทรัพย์ลอนดอนปิดในแดนลบ นำโดยหุ้นค้าปลีก หลังจากหุ้นของ Kerry ผู้ค้าปลีกอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ร่วงลง 9.7% สู่ระดับต่ำสุดในรอบกว่า 20 ปี ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจ และกำไรทั้งปีของบริษัทลดลง 38%
หุ้นที่เกี่ยวข้องกับจีนร่วงลง โดย HSBC และ Standard Chartered ร่วงลง 1.8% และ 2.6% ตามลำดับ และ Prudential ร่วงลง 2.5% ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่ตึงเครียด ระหว่างสหรัฐกับจีน
ส่วนแบ่งการก่อสร้างบ้านลดลง 3.4% หลังจากข้อมูลแสดงให้เห็นว่าการสร้างบ้านในสหราชอาณาจักรลดลงในเดือนมิถุนายนที่อัตราที่สูงที่สุดในรอบกว่า 14 ปี
คำแนะนำการอ่านบทความนี้ : บางบทความในเว็บไซต์ ใช้ระบบแปลภาษาอัตโนมัติ คำศัพท์เฉพาะบางคำอาจจะทำให้ไม่เข้าใจ สามารถเปลี่ยนภาษาเว็บไซต์เป็นภาษาอังกฤษ หรือปรับเปลี่ยนภาษาในการใช้งานเว็บไซต์ได้ตามที่ถนัด บทความของเรารองรับการใช้งานได้หลากหลายภาษา หากใช้ระบบแปลภาษาที่เว็บไซต์ยังไม่เข้าใจ สามารถศึกษาเพิ่มเติมโดยคลิกลิ้งค์ที่มาของบทความนี้ตามลิ้งค์ที่อยู่ด้านล่างนี้
Source link