หุ้นยุโรปปิดสูงขึ้นในวันศุกร์ (14 เม.ย.) สู่ระดับสูงสุดในรอบกว่าหนึ่งปี และปิดในแดนบวกติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 4 โดยได้แรงหนุนจากผลประกอบการที่เป็นบวกจากธนาคารรายใหญ่ ประเทศสหรัฐอเมริกา และจากความหวังที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยุติการขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 466.91 จุด เพิ่มขึ้น 2.7 จุด หรือ +0.58%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,519.61 จุด เพิ่มขึ้น 38.78 จุด หรือ +0.52% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมัน ปิดที่ 15,807.50 จุด เพิ่มขึ้น 78.04 จุด หรือ +0.50% และ FTSE 100 ตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน ดัชนีปิดที่ 7,871.91 จุด เพิ่มขึ้น 28.53 จุด หรือ +0.36%
ดัชนี STOXX 600 แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2022 และเพิ่มขึ้น 1.7% ในสัปดาห์นี้ เป็นกำไรรายสัปดาห์ติดต่อกันที่ยาวนานที่สุดในปีนี้
ดัชนี STOXX 50 ซึ่งอยู่ในกลุ่มหุ้นบลูชิป 50 ตัว ปิดบวก 0.6% แตะระดับสูงสุดในรอบ 22 ปี
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นในเดือนเมษายน สิ่งนี้ได้รับการสนับสนุนจากสัญญาณเงินเฟ้อที่ชะลอตัวในสหรัฐอเมริกา และแนวโน้มที่ดีขึ้นของเศรษฐกิจยูโรโซน
หุ้นกลุ่มธนาคารในยุโรปปรับตัวขึ้นมากที่สุดใน STOXX 600 โดยเพิ่มขึ้น 3.0% สู่ระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือน หลังจากที่ธนาคารรายใหญ่ของสหรัฐประกาศผลประกอบการไตรมาสแรกที่สดใส
หุ้นอสังหาริมทรัพย์ที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 1.8%
อีกปัจจัยที่สนับสนุนตลาดคือการตัดสินใจของ Monetary Authority of Singapore ที่จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ตามเดิม
ตลาดยังได้แรงหนุนจากการเปิดเผยข้อมูลที่ระบุว่าราคาขายส่งของเยอรมนีเพิ่มขึ้นในเดือนมีนาคมในอัตราที่ช้าลงเมื่อเทียบเป็นรายปี แต่เพิ่มขึ้น 0.2% เมื่อเทียบกับเดือนกุมภาพันธ์
ผลประกอบการไตรมาสแรกที่แข็งแกร่งหนุนหุ้นรายตัว ซึ่งรวมถึง Hermès ซึ่งเพิ่มขึ้น 1.5% สู่สถิติใหม่ หลังจากมียอดขายไตรมาสแรกที่ดีเกินคาด โดยได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งจากจีน
หุ้นของ TomTom บริษัทแผนที่และการนำทางของเนเธอร์แลนด์ เพิ่มขึ้น 7.3% หลังจากรายงานผลกำไรไตรมาสแรกที่ดีเกินคาด
คำแนะนำการอ่านบทความนี้ : บางบทความในเว็บไซต์ ใช้ระบบแปลภาษาอัตโนมัติ คำศัพท์เฉพาะบางคำอาจจะทำให้ไม่เข้าใจ สามารถเปลี่ยนภาษาเว็บไซต์เป็นภาษาอังกฤษ หรือปรับเปลี่ยนภาษาในการใช้งานเว็บไซต์ได้ตามที่ถนัด บทความของเรารองรับการใช้งานได้หลากหลายภาษา หากใช้ระบบแปลภาษาที่เว็บไซต์ยังไม่เข้าใจ สามารถศึกษาเพิ่มเติมโดยคลิกลิ้งค์ที่มาของบทความนี้ตามลิ้งค์ที่อยู่ด้านล่างนี้
Source link