หุ้นยุโรปปิดบวกในวันศุกร์ (26 พ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ตลาดยังคงเป็นลบในสัปดาห์นี้ ท่ามกลางความกังวลอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับการชะลอตัวทั่วโลกและความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการเจรจาเพื่อบรรลุข้อตกลงเพิ่มเพดานหนี้ของสหรัฐฯ
ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 461.41 จุด เพิ่มขึ้น 5.23 จุด หรือ +1.15% แต่ลดลง 1.5% ในสัปดาห์นี้ นี่เป็นการลดลงรายสัปดาห์ที่ใหญ่ที่สุดในรอบสองเดือน
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,319.18 จุด เพิ่มขึ้น 89.91 จุด หรือ +1.24% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมัน ปิดที่ 15,983.97 จุด เพิ่มขึ้น 190.17 จุด หรือ +1.20% และ FTSE 100 ตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน ดัชนีปิดที่ 7,627.20 จุด เพิ่มขึ้น 56.33 จุด หรือ +0.74%
หุ้นวันเดียวของยุโรปปิดบวกมากที่สุดในรอบเกือบสองเดือน ดีดตัวขึ้นจากการทดสอบระดับต่ำสุดในรอบ 8 สัปดาห์เมื่อวันพฤหัสบดี ขณะที่นักลงทุนขานรับความคืบหน้าการเจรจาเรื่องเพดานหนี้ของสหรัฐฯ ใกล้บรรลุข้อตกลงเพิ่มเพดานหนี้เป็นเวลา 2 ปี พร้อมจำกัดการใช้จ่ายในด้านอื่นที่ไม่ใช่ด้านการทหารและทหารผ่านศึก
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวขึ้นเป็นวันที่สองจากการคาดการณ์ผลประกอบการจากผู้ผลิตชิปของสหรัฐในอินเดียและมาร์เวล เทคโนโลยี ASML Holdings เพิ่มขึ้น 4.5% สู่ระดับสูงสุดในรอบกว่าหนึ่งปี
หุ้นสินค้าหรูหราเช่น Louis Vuitton, Hermès และ Kering เพิ่มขึ้น 1.4-2.4 เปอร์เซ็นต์
นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในเดือนหน้า
คำแนะนำการอ่านบทความนี้ : บางบทความในเว็บไซต์ ใช้ระบบแปลภาษาอัตโนมัติ คำศัพท์เฉพาะบางคำอาจจะทำให้ไม่เข้าใจ สามารถเปลี่ยนภาษาเว็บไซต์เป็นภาษาอังกฤษ หรือปรับเปลี่ยนภาษาในการใช้งานเว็บไซต์ได้ตามที่ถนัด บทความของเรารองรับการใช้งานได้หลากหลายภาษา หากใช้ระบบแปลภาษาที่เว็บไซต์ยังไม่เข้าใจ สามารถศึกษาเพิ่มเติมโดยคลิกลิ้งค์ที่มาของบทความนี้ตามลิ้งค์ที่อยู่ด้านล่างนี้
Source link