ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวแคบ ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ รวมถึงสถานการณ์ในตะวันออกกลางด้วย
เมื่อเวลา 20:35 น. ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 33,407.36 จุด ลดลง 6.81 จุด หรือ 0.02%
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ลดลงต่ำกว่า 5% ในวันนี้ หลังจากที่ปรับตัวสูงขึ้นตามคำแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐ เจอโรม พาวเวลล์
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นเป็น 5.001% ในช่วงแรก ซึ่งสูงกว่า 5% เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 16 ปี หรือตั้งแต่วันที่ 20 กรกฎาคม 2550 เป็นต้นมา อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นเป็น 5.029%
นักลงทุนคาดหวังว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป หลังจากที่นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด กล่าวเมื่อวานนี้ว่า อัตราเงินเฟ้อยังคงสูงเกินไป และเฟดมุ่งมั่นที่จะรักษาอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ภายใต้เป้าหมาย 2%
นักลงทุนใส่น้ำหนักเกือบ 100% ในการคาดการณ์ เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในการประชุมปลายเดือนนี้
เครื่องมือ FedWatch ล่าสุดของ CME Group ระบุว่านักลงทุนมีทัศนคติเชิงบวก 99.6% ว่า Fed จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 5.25-5.50% ในช่วงวันที่ 31 ต.ค.-พ.ย. ประชุม 1 ครั้ง
นอกจากนี้ตลาดยังกังวลว่าสงครามระหว่างอิสราเอลและฮามาสจะยืดเยื้อต่อไป หลังจากที่นายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล กล่าวว่า สงครามครั้งนี้จะเป็นสงครามที่ยาวนาน
การสู้รบระหว่างอิสราเอลและฮามาสเข้าสู่วันที่ 14 แล้ว และส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า Wall Street จะมีการซื้อขายที่ผันผวนในวันนี้ เนื่องจากออปชั่นมากกว่า 2.2 ล้านล้านออปชั่นมีกำหนดส่งมอบในเดือนตุลาคม ซึ่งรวมถึงตัวเลือกหุ้นมูลค่า 425 พันล้านดอลลาร์ที่จะครบกำหนดในเดือนตุลาคม นี่คือขีดจำกัดการส่งมอบตัวเลือกหุ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนตุลาคม
คำแนะนำการอ่านบทความนี้ : บางบทความในเว็บไซต์ ใช้ระบบแปลภาษาอัตโนมัติ คำศัพท์เฉพาะบางคำอาจจะทำให้ไม่เข้าใจ สามารถเปลี่ยนภาษาเว็บไซต์เป็นภาษาอังกฤษ หรือปรับเปลี่ยนภาษาในการใช้งานเว็บไซต์ได้ตามที่ถนัด บทความของเรารองรับการใช้งานได้หลากหลายภาษา หากใช้ระบบแปลภาษาที่เว็บไซต์ยังไม่เข้าใจ สามารถศึกษาเพิ่มเติมโดยคลิกลิ้งค์ที่มาของบทความนี้ตามลิ้งค์ที่อยู่ด้านล่างนี้
Source link