ดัชนีดาวโจนส์ยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดร่วงกว่า 100 จุดท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการปิดตัวของรัฐบาลสหรัฐฯ หรือปิดให้บริการในวันที่ 1 ต.ค
เมื่อเวลา 23:57 น. ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 33,548.24 จุด ลดลง 118.10 จุด หรือ 0.35%
ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 100 จุดในช่วงแรก หลังสหรัฐฯ เผยดัชนีราคา Core Personal Consumption Expenditures (Core PCE) ต่ำสุดในรอบ 2 ปี ทำให้นักลงทุนคลายความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed)
อย่างไรก็ตาม ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลดลงในภายหลัง เหลือเวลาอีกไม่ถึงสองวันสภาคองเกรสจะบรรลุข้อตกลงในการผ่านงบประมาณชั่วคราว และส่งไปให้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เพื่อลงนามในกฎหมาย
สภาผู้แทนราษฎรแห่งสหรัฐอเมริกาซึ่งพรรครีพับลิกันถือเสียงข้างมาก เตรียมลงมติร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราววันนี้ หวังว่าจะช่วยหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในการปิดหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ หรือปิดให้บริการในวันที่ 1 ต.ค
ร่างกฎหมายดังกล่าวจะให้เงินทุนแก่หน่วยงานภาครัฐเพื่อดำเนินการต่อไปจนถึงวันที่ 31 ต.ค.
อย่างไรก็ตามคาดว่าร่างกฎหมายดังกล่าวจะไม่ได้รับการอนุมัติจากวุฒิสภาสหรัฐอเมริกา ซึ่งพรรคเดโมแครตถือเสียงข้างมาก และจะไม่มีการลงนามโดยประธานาธิบดีโจ ไบเดน
ขณะเดียวกันวุฒิสภามีกำหนดลงคะแนนร่างร่างงบประมาณชั่วคราวของตนเองในวันพรุ่งนี้ (30 ก.ย.)
สหรัฐฯ เสี่ยงต่อการชัตดาวน์ของรัฐบาล หรือปิดตัวในวันที่ 1 ต.ค. หากสภาคองเกรสยังไม่มีความคืบหน้าในการผ่านงบประมาณชั่วคราว และส่งต่อให้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เพื่อลงนามในกฎหมายภายในวันที่ 30 กันยายน
กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐอเมริกาเปิดเผยว่าดัชนีราคา PCE ทั่วไป ซึ่งรวมถึงหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 3.5% ในเดือนสิงหาคมเมื่อเทียบเป็นรายปี สอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์จาก 3.4% ในเดือนกรกฎาคม
เมื่อเทียบเป็นรายเดือน ดัชนี PCE ทั่วไปเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนสิงหาคม ซึ่งต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 0.5% จาก 0.2% ในเดือนกรกฎาคม
ส่วนดัชนี Core PCE (Core PCE) ซึ่งไม่รวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นตัวชี้วัดอัตราเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ให้ความสำคัญ โดยเพิ่มขึ้น 3.9% ในเดือนสิงหาคมเมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบสองปีและสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์จาก 4.3% ในเดือนกรกฎาคม
เมื่อเทียบเป็นรายเดือน ดัชนี PCE หลักเพิ่มขึ้น 0.1% ต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 0.2% จาก 0.2% ในเดือนกรกฎาคม
ดัชนี PCE ถือเป็นตัวชี้วัดอัตราเงินเฟ้อที่สามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภคได้ และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)
คำแนะนำการอ่านบทความนี้ : บางบทความในเว็บไซต์ ใช้ระบบแปลภาษาอัตโนมัติ คำศัพท์เฉพาะบางคำอาจจะทำให้ไม่เข้าใจ สามารถเปลี่ยนภาษาเว็บไซต์เป็นภาษาอังกฤษ หรือปรับเปลี่ยนภาษาในการใช้งานเว็บไซต์ได้ตามที่ถนัด บทความของเรารองรับการใช้งานได้หลากหลายภาษา หากใช้ระบบแปลภาษาที่เว็บไซต์ยังไม่เข้าใจ สามารถศึกษาเพิ่มเติมโดยคลิกลิ้งค์ที่มาของบทความนี้ตามลิ้งค์ที่อยู่ด้านล่างนี้
Source link