ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์เปิดสูงขึ้นมากกว่า 100 จุดในวันนี้ หลังจากที่สหรัฐฯ เปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อที่ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ณ เวลา 20:32 น. ตามเวลาไทย ค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 33,841.69 จุด บวก 156.90 จุด หรือ 0.47%
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และการลดลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐภายหลังการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อดังกล่าว
การอ่อนค่าของเงินดอลลาร์จะหนุนกำไรของบริษัทจดทะเบียนที่มีรายได้จากต่างประเทศ สำหรับการลดลงของอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ซึ่งเป็นพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ใช้อ้างอิงในการกำหนดราคาพันธบัตรทั่วโลก ซึ่งรวมถึงอัตราดอกเบี้ยจำนองของสหรัฐฯ จะทำให้ผู้บริโภคมีเงินจับจ่ายมากขึ้น และช่วยลดต้นทุนการชำระหนี้ของบริษัทต่างๆ ทำให้บริษัทเหล่านี้สามารถเพิ่มการลงทุนและเพิ่มการจ่ายเงินปันผลให้กับนักลงทุนได้
นักลงทุนให้น้ำหนักกับความคาดหวังที่ว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนพ.ค. หลังเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่ออกมาต่ำกว่าคาดในวันนี้
เครื่องมือ FedWatch ของ CME Group บ่งชี้ว่านักลงทุนให้น้ำหนัก 63.9% ว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% เป็นระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 2-3 พฤษภาคม หลังจากให้น้ำหนัก 72.9% ก่อนการเปิดตัว ตัวเลขเงินเฟ้อวันนี้
กระทรวงแรงงานสหรัฐเผยแพร่ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่ขับเคลื่อนโดยการใช้จ่ายของผู้บริโภค เดือนมีนาคมวันนี้
ดัชนี CPI พาดหัว ซึ่งรวมถึงอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 5.0% ในเดือนมีนาคมปีต่อปี ซึ่งต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 5.1% และลดลงจาก 6.0% ในเดือนกุมภาพันธ์
เมื่อเทียบรายเดือน CPI ทั่วไปเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนมี.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์เพิ่มขึ้น 0.2% และชะลอตัวลงจากที่เพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนก.พ.
ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานซึ่งไม่รวมอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 5.6% ในเดือนมีนาคมปีต่อปี สอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากพุ่งแตะ 5.5% ในก.พ.
เมื่อเทียบรายเดือน CPI พื้นฐานเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนมีนาคม ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ และชะลอตัวลงจาก 0.5% ในเดือนกุมภาพันธ์
ขณะเดียวกัน นักลงทุนจับตารายงานการประชุมเฟดวันที่ 21-22 มี.ค.ที่จะออกคืนนี้ เฟดมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 4.75-5.00% ในการประชุม พร้อมกับส่งสัญญาณว่าวัฏจักรของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยกำลังจะสิ้นสุดลง
ในการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบายของพวกเขา (Dot Plot) เจ้าหน้าที่เฟดคาดว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยสูงถึง 5.1% ในปีนี้ ซึ่งบ่งชี้ว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกเพียงครั้งเดียวในปีนี้
บริษัทจดทะเบียนในสหรัฐจะเริ่มรายงานผลประกอบการในสัปดาห์นี้ ธนาคารขนาดใหญ่รวมถึง JP Morgan Chase, Citigroup และ Wells Fargo จะรายงานผลประกอบการไตรมาสแรกปี 2566 ในวันศุกร์
ข้อมูลจาก Refinitiv IBES ระบุว่านักวิเคราะห์คาดว่าบริษัทดัชนี S&P 500 จะรายงานผลประกอบการไตรมาสแรกปี 2566 ลดลง 5.2% หลังจากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะเพิ่มขึ้น 1.4% สำหรับไตรมาสนี้
คำแนะนำการอ่านบทความนี้ : บางบทความในเว็บไซต์ ใช้ระบบแปลภาษาอัตโนมัติ คำศัพท์เฉพาะบางคำอาจจะทำให้ไม่เข้าใจ สามารถเปลี่ยนภาษาเว็บไซต์เป็นภาษาอังกฤษ หรือปรับเปลี่ยนภาษาในการใช้งานเว็บไซต์ได้ตามที่ถนัด บทความของเรารองรับการใช้งานได้หลากหลายภาษา หากใช้ระบบแปลภาษาที่เว็บไซต์ยังไม่เข้าใจ สามารถศึกษาเพิ่มเติมโดยคลิกลิ้งค์ที่มาของบทความนี้ตามลิ้งค์ที่อยู่ด้านล่างนี้
Source link