ดาวโจนส์ร่วงกว่า 300 จุด ต่ำกว่า 33,000 จุด เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้น ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยรุนแรงเกินคาดเพื่อสกัดกั้นเงินเฟ้อ หลังการประกาศดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE)
ณ เวลา 21:41 น. ตามเวลาไทย ค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 32,806.44 จุด ลดลง 347.47 จุด หรือ 1.05%
เผยดัชนี PCE วันนี้พุ่งเกินคาด เป็นการตอกย้ำว่าอัตราเงินเฟ้อยังไม่ถึงจุดสูงสุด หลังจากที่ก่อนหน้านี้ สหรัฐฯ ได้เปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ออกมาสูงกว่าคาดเช่นกัน
นักลงทุนเพิ่มความคาดหวังของพวกเขาว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในเดือนมีนาคมหลังจากดัชนี PCE เปิดตัวในวันนี้
เครื่องมือ FedWatch ล่าสุดของ CME Group ระบุว่านักลงทุน 41.7% มีน้ำหนักในการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด 0.50% สู่ช่วง 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 21-22 มีนาคม หลังจากให้น้ำหนักเมื่อเดือนที่แล้ว เพียง 2.8%
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐกล่าวว่าดัชนี PCE พาดหัว ซึ่งรวมถึงอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 5.4% ในเดือนมกราคมปีต่อปี และสูงกว่า 5.3% ในเดือนธันวาคม
เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี PCE พาดหัวเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนมกราคม และสูงกว่า 0.2% ในเดือนธันวาคม
สำหรับดัชนี PCE หลัก ซึ่งไม่รวมหมวดอาหารและพลังงาน เฟดให้ความสำคัญกับอัตราเงินเฟ้อเป็นหลัก โดยเพิ่มขึ้น 4.7% ในเดือนมกราคมปีต่อปี และสูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 4.4%
เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี PCE หลักเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนมกราคม สูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 0.5%
ดัชนี PCE เป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่สามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมช่วงราคาสินค้าและบริการที่กว้างกว่าข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)
คำแนะนำการอ่านบทความนี้ : บางบทความในเว็บไซต์ ใช้ระบบแปลภาษาอัตโนมัติ คำศัพท์เฉพาะบางคำอาจจะทำให้ไม่เข้าใจ สามารถเปลี่ยนภาษาเว็บไซต์เป็นภาษาอังกฤษ หรือปรับเปลี่ยนภาษาในการใช้งานเว็บไซต์ได้ตามที่ถนัด บทความของเรารองรับการใช้งานได้หลากหลายภาษา หากใช้ระบบแปลภาษาที่เว็บไซต์ยังไม่เข้าใจ สามารถศึกษาเพิ่มเติมโดยคลิกลิ้งค์ที่มาของบทความนี้ตามลิ้งค์ที่อยู่ด้านล่างนี้
Source link