หน้าแรกTHAI STOCKดาวโจนส์ร่วงกว่า 300 จุด หวั่นน้ำมันดันเงินเฟ้อดันเฟดขึ้น | RYT9

ดาวโจนส์ร่วงกว่า 300 จุด หวั่นน้ำมันดันเงินเฟ้อดันเฟดขึ้น | RYT9


ดัชนีดาวโจนส์ยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดดิ่งลงกว่า 300 จุด ท่ามกลางความกังวลว่าราคาน้ำมันที่สูงขึ้นจะกระตุ้นให้ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อ

เมื่อเวลา 23:48 น. ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 34,338.16 จุด ลบ 303.80 จุด หรือ 0.88%

นักลงทุนทุ่มน้ำหนักเกือบ 50% ในการคาดการณ์ว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนพฤศจิกายน เพื่อป้องกันเงินเฟ้อจากราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น

เครื่องมือ CME Group FedWatch ล่าสุดแสดงให้นักลงทุนเห็นน้ำหนัก 48.8% ว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% เป็นช่วง 5.50-5.75% ในการประชุมวันที่ 1 พฤศจิกายน และน้ำหนัก 46.8% ที่จะถือ อัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50%

นอกจากนี้นักลงทุนเริ่มชั่งน้ำหนัก 4.4% ว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% เป็นช่วง 5.75-6.00% ในการประชุม

โมฮาเหม็ด เอล-เอเรียน นักเศรษฐศาสตร์ของ Allianz กล่าวว่าราคาน้ำมันที่สูงขึ้นจะช่วยเพิ่มอัตราเงินเฟ้อ และเมื่อพิจารณาถึงเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่งเกินคาด ก็จะส่งผลต่อการตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยของเฟดด้วย

“เฟดจะไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้ แต่ก็เปิดกว้างสำหรับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคต” El-Erian กล่าวกับ CNBC

ราคาน้ำมัน WTI ปิดสูงขึ้นเมื่อวานนี้สู่ระดับสูงสุดในรอบ 10 เดือนจากข่าวซาอุดิอาระเบียและรัสเซียประกาศขยายเวลาการลดอุปทานน้ำมันโดยสมัครใจจนถึงสิ้นปี 2566

ซาอุดีอาระเบียประกาศลดการผลิตน้ำมันโดยสมัครใจ 1 ล้านบาร์เรลต่อวันจนถึงสิ้นปี ขณะที่รัสเซียได้ขยายเวลาลดการส่งออกน้ำมันเป็น 300,000 บาร์เรลต่อวันจนถึงสิ้นปีเช่นกัน

ธนาคารกลางสหรัฐแห่งแอตแลนตาเปิดเผยแบบจำลองการคาดการณ์ GDPNow ล่าสุดที่แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ เติบโต 5.6% ในไตรมาสที่สามของปี 2023 หลังจากโพสต์การเติบโต 2.0% และ 2.1% ในไตรมาสที่ 1 และไตรมาสที่ 2 ตามลำดับ

ตลาดจะจับตาการเปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจของ Fed’s Beige Book ในคืนนี้ ซึ่งจะบ่งบอกถึงสถานะของเศรษฐกิจสหรัฐฯ

Beige Book ได้รับการเผยแพร่เมื่อสองสัปดาห์ก่อนการประชุมคณะกรรมการตลาดกลางเปิด (FOMC) และอิงตามการประเมินทางเศรษฐกิจจากเจ้าหน้าที่ของเฟดใน 12 เขตของสหรัฐอเมริกา

นอกจากนี้ Beige Book ยังเป็นรายงานรวมจากมุมมองของผู้นำธุรกิจ เช่นเดียวกับนักเศรษฐศาสตร์และนายธนาคารในภูมิภาค ส่งผลให้ Beige Book สะท้อนภาวะเศรษฐกิจในวงกว้างของสหรัฐฯ ได้


     

คำแนะนำการอ่านบทความนี้ : บางบทความในเว็บไซต์ ใช้ระบบแปลภาษาอัตโนมัติ คำศัพท์เฉพาะบางคำอาจจะทำให้ไม่เข้าใจ สามารถเปลี่ยนภาษาเว็บไซต์เป็นภาษาอังกฤษ หรือปรับเปลี่ยนภาษาในการใช้งานเว็บไซต์ได้ตามที่ถนัด บทความของเรารองรับการใช้งานได้หลากหลายภาษา หากใช้ระบบแปลภาษาที่เว็บไซต์ยังไม่เข้าใจ สามารถศึกษาเพิ่มเติมโดยคลิกลิ้งค์ที่มาของบทความนี้ตามลิ้งค์ที่อยู่ด้านล่างนี้


Source link

RELATED ARTICLES
- Advertisment -
Technical Summary Widget Powered by Investing.com

ANALYSIS TODAY

Translate »