ดัชนีดาวโจนส์ยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดร่วงกว่า 100 จุด ใกล้ทะลุระดับ 33,000 จุด โดยได้รับแรงกดดันจากการฟื้นตัวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ หลังสหรัฐฯ เผยยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานต่ำกว่าคาด สิ่งนี้บ่งบอกถึงตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง และจะเป็นปัจจัยสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed)
เมื่อเวลา 21:55 น. ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 33,024.67 จุด ลดลง 104.88 จุด หรือ 0.32%
อัตราผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ซึ่งเป็นพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ใช้อ้างอิงในการกำหนดราคาตราสารหนี้ทั่วโลก ซึ่งรวมถึงอัตราดอกเบี้ยจำนองของสหรัฐอเมริกา จะทำให้ผู้บริโภคมีเงินใช้จ่ายน้อยลง ในขณะเดียวกันค่าใช้จ่ายในการชำระสินเชื่อจำนองก็เพิ่มขึ้น และบริษัทจะต้องเผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้นจากการชำระหนี้ ทำให้บริษัทเหล่านี้ลดการลงทุนและลดการจ่ายเงินปันผลให้กับนักลงทุน
กระทรวงแรงงานกล่าวว่าการยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานเบื้องต้นเพิ่มขึ้นเพียง 2,000 ถึง 207,000 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ต่ำกว่าประมาณการของนักวิเคราะห์ที่ 210,000 ราย
ยังคงต้องรอดูตัวเลขเฉลี่ยของจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในช่วงสี่สัปดาห์ นี่ถือเป็นการวัดตลาดแรงงานที่ดีขึ้น เนื่องจากขจัดความผันผวนรายสัปดาห์ จำนวนผู้ป่วยลดลง 2,500 ราย เหลือ 208,750 ราย
ขณะเดียวกันกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ รายงานว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานอย่างต่อเนื่องลดลงเหลือ 1.67 ล้านคน ต่ำกว่าคาดการณ์ไว้ที่ 1.68 ล้านคน
นักลงทุนจับตาตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันพรุ่งนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าตัวเลขการจ้างงานเพิ่มขึ้น 163,000 ตำแหน่งในเดือนกันยายน จาก 187,000 ตำแหน่งในเดือนสิงหาคม และคาดว่าอัตราการว่างงานจะปรับเป็น 3.7% จาก 3.8% ในเดือนสิงหาคม
คำแนะนำการอ่านบทความนี้ : บางบทความในเว็บไซต์ ใช้ระบบแปลภาษาอัตโนมัติ คำศัพท์เฉพาะบางคำอาจจะทำให้ไม่เข้าใจ สามารถเปลี่ยนภาษาเว็บไซต์เป็นภาษาอังกฤษ หรือปรับเปลี่ยนภาษาในการใช้งานเว็บไซต์ได้ตามที่ถนัด บทความของเรารองรับการใช้งานได้หลากหลายภาษา หากใช้ระบบแปลภาษาที่เว็บไซต์ยังไม่เข้าใจ สามารถศึกษาเพิ่มเติมโดยคลิกลิ้งค์ที่มาของบทความนี้ตามลิ้งค์ที่อยู่ด้านล่างนี้
Source link