หน้าแรกTHAI STOCKดาวโจนส์ยังทะยานต่อเนื่อง ล่าสุดทะยานกว่า 200 จุด คาดเฟดขึ้นระวาง

ดาวโจนส์ยังทะยานต่อเนื่อง ล่าสุดทะยานกว่า 200 จุด คาดเฟดขึ้นระวาง


ดาวโจนส์ยังคงเพิ่มขึ้น ล่าสุดทะยานขึ้นกว่า 200 จุด ตามดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ที่ออกมาต่ำกว่าคาด สิ่งนี้บ่งชี้ว่าอัตราเงินเฟ้อถึงจุดสูงสุดแล้ว และจะเป็นปัจจัยชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

ณ เวลา 22:18 น. ตามเวลาไทย ค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 33,063.02 จุด บวก 203.99 จุด หรือ 0.62%

วันนี้เป็นการซื้อขายวันสุดท้ายของเดือนมีนาคม ดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 0.6% สำหรับเดือนนี้ ในขณะที่ S&P 500 และ Nasdaq เพิ่มขึ้น 2% และ 4.9% ตามลำดับ

วันนี้เป็นวันซื้อขายสุดท้ายของไตรมาสที่ 1 ปี 2023 โดยดาวโจนส์ร่วงเกือบ 1% ขณะที่ S&P 500 และ Nasdaq เพิ่มขึ้น 5.5% และ 14.8% ตามลำดับ

นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งต่อไปในเดือนพฤษภาคม และจะไม่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ หลังจากการประกาศดัชนี PCE ในวันนี้

เครื่องมือ FedWatch ของ CME Group ระบุว่านักลงทุน 53.5% ให้น้ำหนักกับเฟดในการคงอัตราดอกเบี้ยระหว่าง 4.75-5.00% ในการประชุมวันที่ 2-3 พฤษภาคม และ 46.5% ให้น้ำหนักกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25%

นอกจากนี้ นักลงทุนคาดว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 4.75-5.00% ในการประชุมเดือนมิ.ย.และก.ค. ก่อนปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ในเดือนกันยายน ซึ่งเร็วกว่าที่เฟดคาดว่าจะเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยในปี 2567

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐกล่าวว่าดัชนี PCE พาดหัว ซึ่งรวมถึงอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 5.0% ในเดือนกุมภาพันธ์จากปีที่แล้ว ซึ่งต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 5.1% และชะลอตัวจาก 5.3% ในเดือนมกราคม

เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี PCE เพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนกุมภาพันธ์ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 0.5% และชะลอตัวลงจาก 0.6% ในเดือนมกราคม

สำหรับดัชนี PCE หลัก ซึ่งไม่รวมหมวดอาหารและพลังงาน เป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อหลักของเฟด ซึ่งเพิ่มขึ้น 4.6% ในเดือนกุมภาพันธ์ปีต่อปี ซึ่งต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 4.7% และชะลอตัวจาก 4.7% ในเดือนมกราคม

เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี PCE หลักเพิ่มขึ้น 0.3% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 0.4% และชะลอตัวลงจากที่เพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนมกราคม

ดัชนี PCE เป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่สามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมช่วงราคาสินค้าและบริการที่กว้างกว่าข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)


     

คำแนะนำการอ่านบทความนี้ : บางบทความในเว็บไซต์ ใช้ระบบแปลภาษาอัตโนมัติ คำศัพท์เฉพาะบางคำอาจจะทำให้ไม่เข้าใจ สามารถเปลี่ยนภาษาเว็บไซต์เป็นภาษาอังกฤษ หรือปรับเปลี่ยนภาษาในการใช้งานเว็บไซต์ได้ตามที่ถนัด บทความของเรารองรับการใช้งานได้หลากหลายภาษา หากใช้ระบบแปลภาษาที่เว็บไซต์ยังไม่เข้าใจ สามารถศึกษาเพิ่มเติมโดยคลิกลิ้งค์ที่มาของบทความนี้ตามลิ้งค์ที่อยู่ด้านล่างนี้


Source link

RELATED ARTICLES
- Advertisment -
Technical Summary Widget Powered by Investing.com

ANALYSIS TODAY

Translate »