ดัชนีดาวโจนส์ยังคงดีดตัวขึ้นในวันนี้ ล่าสุดขยับขึ้นกว่า 100 จุด หลังร่วงติดต่อกัน 2 วัน โดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนต่ำกว่าคาด นี่จะเป็นปัจจัยสนับสนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ในปีหน้า
นอกจากนี้ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากผลิตภาพแรงงานสหรัฐที่เพิ่มขึ้นเกินคาด และค่าแรงต่อหน่วยลดลงเกินคาด ช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อได้
เมื่อเวลา 22:16 น. ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 36,249.59 จุด บวก 125.03 จุด หรือ 0.35%
บริษัท Automatic Data Processing Inc. (ADP) กล่าวว่าการจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 103,000 รายในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่จะมีตำแหน่งงาน 128,000 ตำแหน่ง หลังจากที่เพิ่มขึ้น 106,000 ตำแหน่งในเดือนตุลาคม
นักลงทุนยังคลายความกังวลเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อหลังจากที่ ADP กล่าวว่าค่าจ้างเพิ่มขึ้น 5.6% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนพฤศจิกายน นี่เป็นการเพิ่มขึ้นน้อยที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2021
กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ประกาศในวันนี้ว่าประสิทธิภาพการทำงานของแรงงานนอกภาคเกษตรกรรมของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 5.2% ในไตรมาส 3 ปี 2023 เมื่อเทียบเป็นไตรมาสต่อไตรมาส ซึ่งถือเป็นการเพิ่มขึ้นที่ใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาส 3/2563
นอกจากนี้ตัวเลขประสิทธิภาพการผลิตที่กล่าวมาข้างต้น ซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 4.3% หลังจากเพิ่มขึ้น 3.5% ในไตรมาสที่ 2
อย่างไรก็ตาม ผลิตภาพแรงงานเป็นตัววัดผลผลิตรายชั่วโมงต่อพนักงาน
ในขณะเดียวกัน ต้นทุนค่าแรงต่อหน่วยลดลง 1.2% ในไตรมาสที่สาม ในขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 0.9% หลังจากเพิ่มขึ้น 2.2% ในไตรมาสที่สอง
นักลงทุนจะจับตาดูตัวเลขขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ในวันพรุ่งนี้ รวมถึงตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันศุกร์ เพื่อค้นหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 180,000 ตำแหน่งในเดือนพฤศจิกายน หลังจากเพิ่มงานเพียง 150,000 ตำแหน่งในเดือนตุลาคม และคาดว่าอัตราการว่างงานจะทรงตัวที่ 3.9%
นักลงทุนใส่น้ำหนักเกือบ 100% ในการคาดการณ์ เฟดจะประกาศว่าอัตราดอกเบี้ยจะยังคงทรงตัวในการประชุมสัปดาห์หน้า ก่อนปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในการประชุมเดือนมีนาคม 2567
เครื่องมือ FedWatch ล่าสุดของ CME Group ระบุว่านักลงทุนให้น้ำหนัก 99.7% กับความคาดหวังว่า Fed จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 12-13 ธันวาคม 2023 และให้น้ำหนัก 87.4% ที่ เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในเดือนมกราคม 2567
นอกจากนี้ นักลงทุนให้น้ำหนัก 53.0% แก่เฟดในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% เหลือ 5.00-5.25% ในการประชุมเดือนมีนาคม 2567
คำแนะนำการอ่านบทความนี้ : บางบทความในเว็บไซต์ ใช้ระบบแปลภาษาอัตโนมัติ คำศัพท์เฉพาะบางคำอาจจะทำให้ไม่เข้าใจ สามารถเปลี่ยนภาษาเว็บไซต์เป็นภาษาอังกฤษ หรือปรับเปลี่ยนภาษาในการใช้งานเว็บไซต์ได้ตามที่ถนัด บทความของเรารองรับการใช้งานได้หลากหลายภาษา หากใช้ระบบแปลภาษาที่เว็บไซต์ยังไม่เข้าใจ สามารถศึกษาเพิ่มเติมโดยคลิกลิ้งค์ที่มาของบทความนี้ตามลิ้งค์ที่อยู่ด้านล่างนี้
Source link