ดัชนีดาวโจนส์พุ่งกว่า 200 จุด โดยได้แรงหนุนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่ลดลง
เมื่อเวลา 00:02 น. ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 35,291.97 จุด บวก 203.68 จุด หรือ 0.58%
อย่างไรก็ตาม หุ้นพลังงานกลับตกลงสวนทางกับตลาด หลังราคาน้ำมันตกต่ำ หลังองค์การประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC) และประเทศพันธมิตร หรือ OPEC Plus เลื่อนการประชุมนโยบายการผลิตน้ำมัน โดยไม่ต้องระบุเหตุผล
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีลดลงต่ำกว่า 4.4% ในวันนี้ ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 30 ปีแตะระดับ 4.524% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 22 กันยายน
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ซึ่งเป็นพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ใช้อ้างอิงในการกำหนดราคาตราสารหนี้ทั่วโลก ซึ่งรวมถึงอัตราดอกเบี้ยจำนองของสหรัฐอเมริกา จะทำให้ผู้บริโภคมีเงินใช้จ่ายมากขึ้น และช่วยลดต้นทุนการชำระหนี้ให้กับบริษัทต่างๆ ทำให้บริษัทเหล่านี้สามารถเพิ่มการลงทุนได้ และเพิ่มการจ่ายเงินปันผลให้กับนักลงทุน
นักลงทุนยังคงคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) จะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธันวาคม ก่อนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนพฤษภาคม 2567 แม้ว่ารายงานการประชุมเฟดจะถูกเปิดเผยเมื่อวานนี้ก็ตาม
รายงานการประชุม Fed วันที่ 31 ต.ค.-พ.ย. การประชุมครั้งที่ 1 ส่งสัญญาณว่าเฟดอาจขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกหากอัตราเงินเฟ้อเร่งตัวขึ้น และไม่มีข้อบ่งชี้ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้
เครื่องมือ FedWatch ล่าสุดของ CME Group ระบุว่านักลงทุนคาดหวังว่า Fed จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 5.25-5.50% ในการประชุมเดือนธันวาคม 2566 มกราคม 2567 และมีนาคม 2567 ก่อนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย อัตราดอกเบี้ย 0.25% ถึง 5.00-5.25% ในการประชุมเดือนพฤษภาคม 2567
พรุ่งนี้ Wall Street จะปิดเนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า และเปิดซื้อขายเพียงครึ่งวันในวันศุกร์
คำแนะนำการอ่านบทความนี้ : บางบทความในเว็บไซต์ ใช้ระบบแปลภาษาอัตโนมัติ คำศัพท์เฉพาะบางคำอาจจะทำให้ไม่เข้าใจ สามารถเปลี่ยนภาษาเว็บไซต์เป็นภาษาอังกฤษ หรือปรับเปลี่ยนภาษาในการใช้งานเว็บไซต์ได้ตามที่ถนัด บทความของเรารองรับการใช้งานได้หลากหลายภาษา หากใช้ระบบแปลภาษาที่เว็บไซต์ยังไม่เข้าใจ สามารถศึกษาเพิ่มเติมโดยคลิกลิ้งค์ที่มาของบทความนี้ตามลิ้งค์ที่อยู่ด้านล่างนี้
Source link