ดัชนีดาวโจนส์พุ่งกว่า 100 จุด หลังสหรัฐฯ เผยดัชนีราคา Core Personal Consumption Expenditures (Core PCE) ต่ำสุดในรอบ 2 ปี ทำให้นักลงทุนคลายความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed)
เมื่อเวลา 20:33 น. ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 33,829.33 จุด บวก 162.99 จุด หรือ 0.48%
นอกจากนี้ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่ลดลง หลังจากเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อในวันนี้
กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐอเมริกาเปิดเผยว่าดัชนีราคา PCE ทั่วไป ซึ่งรวมถึงหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 3.5% ในเดือนสิงหาคมเมื่อเทียบเป็นรายปี สอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์จาก 3.4% ในเดือนกรกฎาคม
เมื่อเทียบเป็นรายเดือน ดัชนี PCE ทั่วไปเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนสิงหาคม ซึ่งต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 0.5% จาก 0.2% ในเดือนกรกฎาคม
ส่วนดัชนี Core PCE (Core PCE) ซึ่งไม่รวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นตัวชี้วัดอัตราเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ให้ความสำคัญ โดยเพิ่มขึ้น 3.9% ในเดือนสิงหาคมเมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบสองปีและสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์จาก 4.3% ในเดือนกรกฎาคม
เมื่อเทียบเป็นรายเดือน ดัชนี PCE หลักเพิ่มขึ้น 0.1% ต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 0.2% จาก 0.2% ในเดือนกรกฎาคม
ดัชนี PCE ถือเป็นตัวชี้วัดอัตราเงินเฟ้อที่สามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภคได้ และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)
นักลงทุนจะจับตาดูความคืบหน้าของสภาคองเกรสในการผ่านงบประมาณชั่วคราว หากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้ภายในวันที่ 30 กันยายน จะส่งผลให้หน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ ต้องปิดตัวลง หรือปิดให้บริการในวันที่ 1 ต.ค
คำแนะนำการอ่านบทความนี้ : บางบทความในเว็บไซต์ ใช้ระบบแปลภาษาอัตโนมัติ คำศัพท์เฉพาะบางคำอาจจะทำให้ไม่เข้าใจ สามารถเปลี่ยนภาษาเว็บไซต์เป็นภาษาอังกฤษ หรือปรับเปลี่ยนภาษาในการใช้งานเว็บไซต์ได้ตามที่ถนัด บทความของเรารองรับการใช้งานได้หลากหลายภาษา หากใช้ระบบแปลภาษาที่เว็บไซต์ยังไม่เข้าใจ สามารถศึกษาเพิ่มเติมโดยคลิกลิ้งค์ที่มาของบทความนี้ตามลิ้งค์ที่อยู่ด้านล่างนี้
Source link