ดาวโจนส์พุ่งกว่า 100 จุดในวันนี้ จากคำสั่งซื้อสินค้าคงทนที่แข็งแกร่ง
ณ เวลา 20:46 น. ตามเวลาไทย ค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 33,839.16 จุด บวก 124.45 จุด หรือ 0.37%
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ระบุว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนในสหรัฐฯ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป เพิ่มขึ้น 1.7% ในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันที่ขยายตัว และขัดต่อความคาดหวังของนักวิเคราะห์ คาดว่าจะลดลง 0.9%
ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนได้รับแรงหนุนจากคำสั่งซื้อเครื่องบินและรถยนต์
การสั่งซื้อสินค้าคงทนขั้นพื้นฐาน เป็นการสั่งซื้อสินค้าประเภททุนไม่รวมเครื่องบิน และผลิตภัณฑ์อาวุธ ตัวบ่งชี้แผนการใช้จ่ายของธุรกิจ เพิ่มขึ้น 0.7% ในเดือนพ.ค. และเป็นเดือนที่สองติดต่อกัน
หุ้นของ Walgreens Boots Alliance ซึ่งเป็นเครือร้านขายยารายใหญ่ที่สุดของสหรัฐ ร่วงลงมากกว่า 8% หลังจากบริษัทประกาศผลประกอบการต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ได้รับผลกระทบจากปริมาณการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่ลดลง และการจำหน่ายชุดตรวจหาเชื้อโควิด-19
สัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์สุดท้ายของเดือนมิถุนายน รวมถึงสัปดาห์สุดท้ายของไตรมาสที่ 2 และครึ่งแรกของปี 2566
ดาวโจนส์พุ่งขึ้นมากกว่า 1% ในไตรมาสที่สอง ขณะที่ดัชนี S&P 500 พุ่งขึ้นมากกว่า 5% และ Nasdaq พุ่งขึ้นมากกว่า 9%
นักลงทุนกำลังจับตาดูการกล่าวสุนทรพจน์ของประธานธนาคารกลางสหรัฐ เจอโรม เพาเวลล์ เพื่อบ่งชี้ถึงทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด
นายพาวเวลล์มีกำหนดเข้าร่วมการหารือเกี่ยวกับนโยบายการเงินของธนาคารกลาง ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จัดขึ้นที่เมืองซินตรา โปรตุเกสในวันพุธที่ 28 มิถุนายน
นอกจากนี้ นายพาวเวลล์ยังมีกำหนดการเข้าร่วมการเสวนาด้านเสถียรภาพทางการเงินอีกด้วย ซึ่งธนาคารกลางสเปนจัดขึ้นที่กรุงมาดริดในวันพฤหัสบดีที่ 29 มิถุนายน
ก่อนหน้านี้ ในการปราศรัยต่อสภาคองเกรสเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พาวเวลล์ย้ำว่าเฟดจะยังคงขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดกั้นเงินเฟ้อ และส่งสัญญาณว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งเป็น 5.50-5.75% ภายในสิ้นปี
นายพาวเวลล์ยังกล่าวว่าเฟดคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายการเงินในปลายเดือนนี้ เป็นเพียงการระงับการดำเนินการอัตราดอกเบี้ยชั่วคราว แทนที่จะระบุว่าเฟดได้ยุติวงจรการขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้ว
ขณะเดียวกัน นักลงทุนจับตาดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ซึ่งจะประกาศในวันศุกร์นี้ ดัชนีเป็นตัววัดอัตราเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ ซึ่งสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภคและครอบคลุมช่วงราคาสินค้าและบริการที่กว้างกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)
คำแนะนำการอ่านบทความนี้ : บางบทความในเว็บไซต์ ใช้ระบบแปลภาษาอัตโนมัติ คำศัพท์เฉพาะบางคำอาจจะทำให้ไม่เข้าใจ สามารถเปลี่ยนภาษาเว็บไซต์เป็นภาษาอังกฤษ หรือปรับเปลี่ยนภาษาในการใช้งานเว็บไซต์ได้ตามที่ถนัด บทความของเรารองรับการใช้งานได้หลากหลายภาษา หากใช้ระบบแปลภาษาที่เว็บไซต์ยังไม่เข้าใจ สามารถศึกษาเพิ่มเติมโดยคลิกลิ้งค์ที่มาของบทความนี้ตามลิ้งค์ที่อยู่ด้านล่างนี้
Source link